ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คิม อิล-ซ็อง"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
Add 1 book for WP:V (20240314)) #IABot (v2.0.9.5) (GreenC bot |
||
(ไม่แสดง 22 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 10 คน) | |||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Infobox officeholder |
|||
{{ผู้นำประเทศ |
|||
| honorific_prefix = [[ประธานาธิบดีตลอดกาล]] |
|||
| name = คิม อิล-ซ็อง |
|||
| name = คิม อิล-ซ็อง |
|||
| image = Kim Il Sung Portrait-2.jpg |
|||
| native_name = {{nobold|김일성}} |
|||
| order = เลขาธิการ[[พรรคแรงงานเกาหลี]] |
|||
| native_name_lang = ko-Hang-KP |
|||
| term_start = 12 ตุลาคม พ.ศ. 2509 |
|||
| image = Kim Il Sung Portrait.png<!-- Do not replace this photograph with a posthumous portrait, per [[MOS:IMAGEQUALITY]]. --> |
|||
| term_end = 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 |
|||
| caption = คิม {{circa|คริสต์ทศวรรษ 1960}} |
|||
| predecessor = สถาปนาตำแหน่ง |
|||
| office1 = [[เลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี]] |
|||
| successor = [[คิม จ็อง-อิล]] |
|||
| term_start1 = 12 ตุลาคม 1966 |
|||
| order2 = [[ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ]] |
|||
| term_end1 = 8 กรกฎาคม 1994 |
|||
| term_start2 = 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 |
|||
| predecessor1 = ตนเอง (ในฐานะประธาน) |
|||
| term_end2 = 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 |
|||
| successor1 = [[คิม จ็อง-อิล]] |
|||
| predecessor2 = สถาปนาตำแหน่ง |
|||
| 1blankname1 = เลขาธิการ |
|||
| successor2 = ยกเลิกตำแหน่ง |
|||
| 1namedata1 = {{Collapsible list|title={{nobold|''ดูรายชื่อ''}}|[[Choe Yong-gon (vice-premier)|Choe Yong-gon]]|[[Kim Il (politician)|Kim Il]]|[[Pak Kum-chol]]|[[Ri Hyo-son]]|[[Kim Kwang-hyop]]|[[Sok San]]|[[Ho Pong-hak]]|[[Kim Yong-ju]]|[[Pak Yong-guk]]|[[Kim To-man]]|[[Ri Kuk-jin]]|[[Kim Jung-rin]]|[[Yang Hyong-sop]]|[[O Jin-u]]|[[Kim Tong-gyu]]|[[Han Ik-su]]|[[Hyon Mu-gwang]]|Kim Jong Il|[[Hwang Jang-yop]]|[[Kim Yong-nam]]|[[Kim Hwan]]|[[Yon Hyong-muk]]|[[Yun Ki-bok]]|[[Hong Si-hak]]}} |
|||
| birth_date = 15 เมษายน พ.ศ. 2455 |
|||
| office2 = [[ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ]] |
|||
| birth_place = [[เปียงยาง|เฮโจ]] [[จังหวัดพย็องอันใต้]], [[โชซ็อน]]<br>(ปัจจุบันคือ[[เปียงยาง]], [[เกาหลีเหนือ]] |
|||
| term_start2 = 28 ธันวาคม 1972 |
|||
| death_date = {{วันตายและอายุ|2537|7|8|2455|4|15}} |
|||
| term_end2 = 8 กรกฎาคม 1994 |
|||
| death_place =[[ฮยังซัน]] [[จังหวัดพย็องอันเหนือ]], [[เกาหลีเหนือ]] |
|||
| predecessor2 = ''สถาปนาตำแหน่ง''{{efn|[[Choe Yong-gon (army commander)|Choi Yong-kun]] เคยดำรงตำแหน่ง[[ประมุขแห่งรัฐ]]ในฐานะ[[ประธานสมัชชาประชาชนสูงสุด]]}} |
|||
| party = [[พรรคแรงงานเกาหลี]] |
|||
| successor2 = ''ยกเลิกตำแหน่ง''{{efn|[[Kim Yong-nam]] กลายเป็น[[ประมุขแห่งรัฐ]]ในฐานะ[[ประธานสมัชชาประชาชนสูงสุด]]}} |
|||
| spouse = [[คิม จ็อง-ซุก]] (พ.ศ. 2484–พ.ศ. 2492)<br>[[คิม ซ็อง-แอ]] (พ.ศ. 2495–พ.ศ. 2537) |
|||
| premier2 = {{Collapsible list|title={{nobold|''ดูรายชื่อ''}}|Kim Il|[[Pak Song-chol]]|[[Ri Jong-ok]]|[[Kang Song-san]]|[[Ri Kun-mo]]|Yon Hyong-muk|Kang Song-san}} |
|||
| children = [[คิม จ็อง-อิล]]<br>[[คิม มัน-อิล]]<br>[[คิม กย็อง-ฮี]]<br>คิม กย็อง-จิน<br>[[คิม พย็อง-อิล]]<br>คิม ย็อง-อิล |
|||
| vicepresident2 = {{Collapsible list|title={{nobold|''ดูรายชื่อ''}}|[[Choe Yong-gon (official)|Choe Yong-gon]]|[[Kang Ryang-uk]]|[[Kim Tong-kyu]]|Kim Il|Pak Song-chol|[[Rim Chun-chu]]|Ri Jong-ok|[[Kim Pyong-sik]]}} |
|||
| religion = [[อเทวนิยม]] |
|||
| |
| office3 = [[ประธานพรรคแรงงานเกาหลี]] |
||
| 1blankname3 = รองประธาน |
|||
| branch = [[กองทัพแดง]]<br>[[กองทัพประชาชนเกาหลี]] |
|||
| 1namedata3 = {{Collapsible list|title={{nobold|''ดูรายชื่อ''}}|[[Ho Ka-i]]|[[Pak Hon-yong]]|Kim Il|[[Pak Chang-ok]]|[[Pak Chong-ae]]|Pak Kum-chol|[[Pak Yong-bin]]|Choe Yong-gon|[[Jong Il-yong]]|[[Kim Chang-man]]|Ri Hyo-son}} |
|||
| serviceyears = {{ubl |1941–1945 |1948–1994}} |
|||
| predecessor3 = [[คิม ดู-บง]] |
|||
| rank = [[ไฟล์:Generalissimo rank insignia (North Korea).svg|30px]] แทวอนซู ([[จอมพลสูงสุด]]) |
|||
| successor3 = ตนเอง (ในฐานะเลขาธิการพรรค) |
|||
| commands = {{flagicon image|Standard of the Supreme Commander of the Korean People's Army.svg}} [[ผู้บัญชาการทหารสูงสุด]] |
|||
| term_start3 = 24 มิถุนายน 1949 |
|||
| battles = {{ubl |[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] |[[สงครามเกาหลี]]}} |
|||
| term_end3 = 12 ตุลาคม 1966 |
|||
| signature =Kim Il Sung Signature.svg |
|||
| office4 = [[นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ]] |
|||
| footnotes = |
|||
| 1blankname4 = รองนายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือคนแรก |
|||
|native_name={{nobold|{{lang|ko|김일성}}}}<br />{{nobold|{{lang|ko|金日成}}}}|caption=ภาพเหมือนอย่างเป็นทางการภายหลังอสัญกรรม|honorific-prefix=[[ประธานาธิบดีตลอดกาล]]<br>[[จอมพลสูงสุด]]|order3=ประธาน[[พรรคแรงงานเกาหลี]]|term_start3=24 มิถุนายน พ.ศ. 2492|term_end3=12 ตุลาคม พ.ศ. 2509|predecessor3=[[คิม ทู-บง]]|successor3=ตนเอง (ในฐานะเลขาธิการพรรค)|order4=[[นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ]]|term_start4=9 กันยายน พ.ศ. 2491|term_end4=28 ธันวาคม พ.ศ. 2515|predecessor4=สถาปนาตำแหน่ง|successor4=[[คิม อิล]]|order5=ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่ง[[กองทัพประชาชนเกาหลี]]|term_start5=5 กรกฎาคม พ.ศ. 2493|term_end5=24 ธันวาคม พ.ศ. 2534|predecessor5=[[เช ย็อง-ก็อน]]|successor5=[[คิม จ็อง-อิล]]|birth_name=คิม ซง-จู|otherparty=[[พรรคแรงงานเกาหลีเหนือ]] (พ.ศ. 2489–พ.ศ. 2492)<br>[[พรรคคอมมิวนิสต์จีน]] (พ.ศ. 2474–พ.ศ. 2489)|resting_place=วังสุริยะคึมซูซัน [[เปียงยาง]], [[เกาหลีเหนือ]]|profession=[[นักการเมือง]]|unit=[[กองปืนไรเฟิลแยกที่ 88]], [[กองทัพแดง]]}} |
|||
| 1namedata4 = คิม อิล |
|||
[[ไฟล์:万寿台 Mansudae Grand Monument.jpg|200px|thumbnail|อนุสาวรีย์คิม อิล-ซ็อง]] |
|||
| 2blankname4 = รองนายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ |
|||
'''คิม อิล-ซ็อง''' ({{เกาหลี|김일성|ฮันจา=金日成|MC2000=Kim Il-sŏng|MR=Gim Il-seong}}, 15 เมษายน พ.ศ. 2455 – 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2537) เป็นผู้นำคนแรกของ[[สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี]] ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเมื่อ พ.ศ. 2492 ถึง พ.ศ. 2515 และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ พ.ศ. 2515 กระทั่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. 2537<ref>{{cite web |url=http://www.dailynk.com/korean/read.php?cataId=nk00500&num=55181 |title=김일성, 쿠바의 ‘혁명영웅’ 체게바라를 만난 날 |language=ko|date=15 April 2008 |work=DailyNK}}</ref> นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้า[[พรรคแรงงานเกาหลี]] ตั้งแต่ พ.ศ. 2493 จนถึง พ.ศ. 2537 คิม อิล-ซ็องเป็นที่รู้จักกว้างขวางในฐานะผู้[[เผด็จการ]]ในระบอบ[[คอมมิวนิสต์]]ของประเทศเกาหลีเหนือ โดยดำรงตำแหน่งอยู่ในอำนาจในฐานะผู้นำของประเทศเกาหลีเหนือเป็นเวลายาวนานถึงสี่สิบกว่าปี ดำรงตำแหน่งในช่วงสำคัญในประวัติศาสตร์อันได้แก่[[สงครามเย็น]]และ[[สงครามเกาหลี]] มีการพัฒนา[[ลัทธิบูชาบุคคล]]ขึ้นมาสำหรับคิม อิล-ซ็องโดยเฉพาะ หลังคิม อิล-ซ็อง ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว รัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้การนำของประธานาธิบดี[[คิม จ็อง-อิล]] บุตรชาย ได้ให้สมญานามแก่เขาว่า "ประธานาธิบดีตลอดกาล" (Eternal President {{เกาหลี|영원한 주석|Yeongwonhan Juseok}})<ref>Hoare, James E. (2012) ''Historical Dictionary of Democratic People's Republic of Korea''</ref> เมื่อ พ.ศ. 2554 |
|||
| 2namedata4 = {{Collapsible list|title={{nobold|''ดูรายชื่อ''}}|Pak Hon-yong|[[Hong Myong-hui]]|[[Kim Chaek]]|Kim Il|[[Jong Il-ryong]]|[[Nam Il]]|[[Pak Ui-wan]]|[[Jong Jun-thaek]]|Kim Kwang-hyop|Kim Chang-man|Ri Jong-ok|[[Ri Ju-yon]]|Pak Song-chol|[[Choe Yong-jin]]}} |
|||
| predecessor4 = ''สถาปนาตำแหน่ง'' |
|||
| successor4 = คิม อิล |
|||
| term_start4 = 9 กันยายน 1948 |
|||
| term_end4 = 28 ธันวาคม 1972 |
|||
| office5 = [[ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพประชาชนเกาหลี]] |
|||
| term_start5 = 5 กรกฎาคม 1950 |
|||
| term_end5 = 24 ธันวาคม 1991 |
|||
| predecessor5 = เช ย็อง-ก็อน |
|||
| successor5 = คิม จ็อง-อิล |
|||
| birth_name = คิม ซ็อง-จู |
|||
| birth_date = {{birth date|df=yes|1912|4|15}} |
|||
| birth_place = นัมนี [[จังหวัดพย็องอันใต้|จังหวัดเฮอังใต้]] [[เกาหลีภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น|โชเซ็น]] [[จักรวรรดิญี่ปุ่น]]{{awrap|(ปัจจุบันคือ[[มันกย็องแด]] [[เปียงยาง]] [[ประเทศเกาหลีเหนือ]])}} |
|||
| death_date = {{death date and age|df=yes|1994|7|8|1912|4|15}} |
|||
| death_place = บ้านพักฮยังซัน [[เทศมณฑลฮยังซัน]] จังหวัดพย็องอันเหนือ ประเทศเกาหลีเหนือ |
|||
| resting_place = [[วังสุริยะคึมซูซัน]] เปียงยาง |
|||
| nationality = เกาหลีเหนือ |
|||
| spouse = {{ubl|{{marriage|[[คิม จ็อง-ซุก]]|1941|1949|end=died}}|{{marriage|[[คิม ซ็อง-แอ]]|1952}}}} |
|||
| children = 6 คน, รวม[[คิม จ็อง-อิล]], [[คิม มัน-อิล]], [[คิม กย็อง-ฮี]] และ[[คิม พย็อง-อิล]] |
|||
| parents = {{ubl|[[คิม ฮย็อง-จิก]]|[[Kang Pan Suk]]}} |
|||
| relatives = [[Kim family (North Korea)|ตระกูลคิม]] |
|||
| residence = <!-- Pyongyang, North Korea --> |
|||
| profession = <!-- Politician --> |
|||
| allegiance = {{ubl|[[เกาหลีเหนือ]]|[[สหภาพโซเวียต]]|[[Communist-controlled China (1927–1949)|จีนคอมมิวนิสต์]]}} |
|||
| branch = {{ubl|item_style={{longitem}}|[[Korean People's Army Ground Force]]|[[กองทัพแดง]]|[[Northeast Anti-Japanese United Army]]}} |
|||
| serviceyears = {{ubl|1941–1945|1948–1994}} |
|||
| rank = {{plainlist| |
|||
* [[File:DPRK-Army-OF-12.svg|15px]] {{transliteration|ko|[[แทวอนซู]]}} |
|||
}} |
|||
| commands = ''ทั้งหมด'' (ผู้บัญชาการทหารสูงสุด) |
|||
| battles = {{ubl|[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]|[[สงครามเกาหลี]]}} |
|||
| party = [[พรรคแรงงานเกาหลี]] |
|||
| otherparty = {{ubl|item_style={{longitem}}|[[พรรคแรงงานเกาหลี|พรรคแรงงานเกาหลีเหนือ]] (1946–1949)|[[พรรคคอมมิวนิสต์จีน]] (1931–1946)}} |
|||
| signature = Kim Il Sung Signature.svg |
|||
| footnotes = {{Collapsible list |
|||
|titlestyle = background-color:#FCF;text-align:center; |
|||
|title = สมาชิกสถาบันกลาง |
|||
|bullets = on |
|||
| 1980–1994: Member, Presidium of the Political Bureau of the 6th Central Committee of the Workers' Party of Korea |
|||
| 1970–1980: Member, Political Committee of the Central Committee of the Workers' Party of Korea |
|||
| 1966–1994: Secretariat of the Workers' Party of Korea |
|||
| 1966–1970: Member, Standing Committee of the Political Committee of the Central Committee of the Workers' Party of Korea |
|||
| 1961–1970: Chairman, Political Committee of the Central Committee of the Workers' Party of Korea |
|||
| 1956–1961: Member, Standing Committee of the Central Committee of the Workers' Party of Korea |
|||
| 1948–1994: Deputy, 1st, 2nd, 3rd, 4th, 5th, 6th, 7th, 8th and 9th Supreme People's Assembly |
|||
| 1946–1956: Member, Political Committee of the Central Committee of the Workers' Party of Korea |
|||
| 1946–1994: Member, 1st, 2nd, 3rd, 4th, 5th, and 6th Central Committee of the Workers' Party of Korea |
|||
}} |
|||
---- |
|||
{{Collapsible list |
|||
|titlestyle = background-color:#FCF;text-align:center; |
|||
|title = ตำแหน่งอื่น ๆ |
|||
|bullets = on |
|||
| 1982–1994: Chairman, Central Military Commission of the Workers' Party of Korea |
|||
| 1972–1992: Chairman, National Defense Commission of the Central People's Committee of the Democratic People's Republic of Korea |
|||
| 1970–1982: Chairman, Military Commission of the Central Committee of the Workers' Party of Korea |
|||
| 1992–1993: Chairman, National Defense Commission of the Democratic People's Republic of Korea |
|||
| 1947–1948: Chairman, People's Committee of North Korea |
|||
| 1946–1949: Vice Chairman, Central Committee of the Workers' Party of North Korea |
|||
| 1946–1947: Chairman, Provisional People's Committee of North Korea |
|||
| 1945–1946: Chairman, [[North Korea Bureau of the Communist Party of Korea]] |
|||
}} |
|||
| module = {{Infobox Korean name|child=yes |
|||
| image = Kim Il sung.svg |
|||
| caption ="คิม อิล-ซ็อง" ใน[[อักษรฮันจา]] (บน) และ[[อักษรฮันกึล|อักษรโชซ็อนกึล]] (ล่าง) |
|||
| context = north |
|||
| hangul = 김일성 |
|||
| hanja = {{linktext|lang=ko-Hant|金|日|成}}<ref name=aks>{{Cite web|last=김 |first=성욱|date=23 October 2010|script-title=ko:김일성(金日成)|url=http://people.aks.ac.kr/front/dirSer/ppl/pplView.aks?pplId=PPL_8KOR_A1912_1_0026272)|script-work=ko:한국역대인물 종합정보 시스템|language=ko|publisher=[[Academy of Korean Studies]]|access-date=7 November 2022}}{{dead link|date=May 2023 |bot=InternetArchiveBot |fix-attempted=yes }}</ref> |
|||
| mr = Kim Ilsŏng |
|||
| rr = Gim Il(-)seong |
|||
| tablewidth = 265 |
|||
| color = lavender |
|||
| hangulborn = 김성주 |
|||
| hanjaborn = {{linktext|lang=ko-Hant|金|成|柱}}<ref name=aks /> |
|||
| rrborn = Gim Seong(-)ju |
|||
| mrborn = Kim Sŏngju |
|||
}} |
|||
| unit = [[กองปืนไรเฟิลแยกที่ 88]], กองทัพแดง |
|||
}} |
|||
'''คิม อิล-ซ็อง''' ({{Korean|hangul=김일성|context=north}}; ชื่อเกิด '''คิม ซ็อง-จู''';{{efn|{{Korean|hangul=김성주}}}} 15 เมษายน ค.ศ. 1912 – 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1994) เป็นผู้นำคนแรกของ[[สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี]] ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเมื่อ พ.ศ. 2492 ถึง พ.ศ. 2515 และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ พ.ศ. 2515 กระทั่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. 2537<ref>{{cite web |url=http://www.dailynk.com/korean/read.php?cataId=nk00500&num=55181 |title=김일성, 쿠바의 ‘혁명영웅’ 체게바라를 만난 날 |language=ko|date=15 April 2008 |work=DailyNK}}</ref> นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้า[[พรรคแรงงานเกาหลี]] ตั้งแต่ พ.ศ. 2493 จนถึง พ.ศ. 2537 คิม อิล-ซ็องเป็นที่รู้จักกว้างขวางในฐานะผู้[[เผด็จการ]]ในระบอบ[[คอมมิวนิสต์]]ของประเทศเกาหลีเหนือ โดยดำรงตำแหน่งอยู่ในอำนาจในฐานะผู้นำของประเทศเกาหลีเหนือเป็นเวลายาวนานถึงสี่สิบกว่าปี ดำรงตำแหน่งในช่วงสำคัญในประวัติศาสตร์อันได้แก่[[สงครามเย็น]]และ[[สงครามเกาหลี]] มีการพัฒนา[[ลัทธิบูชาบุคคล]]ขึ้นมาสำหรับคิม อิล-ซ็องโดยเฉพาะ หลังคิม อิล-ซ็อง ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว รัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้การนำของประธานาธิบดี[[คิม จ็อง-อิล]] บุตรชาย ได้ให้สมญานามแก่เขาว่า "ประธานาธิบดีตลอดกาล" (Eternal President {{เกาหลี|영원한 주석|Yeongwonhan Juseok}})<ref>Hoare, James E. (2012) ''Historical Dictionary of Democratic People's Republic of Korea''</ref> เมื่อ พ.ศ. 2554 |
|||
== ชีวิตวัยเยาว์ == |
|||
== ประวัติ == |
|||
=== ภูมิหลังครอบครัว === |
|||
=== ชีวิตวัยเยาว์ === |
|||
[[File:Kim Il-sung's birthplace.jpg|thumb|บ้านที่คิมถือกำเนิด]] |
|||
อัตชีวประวัติของประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง นั้นได้มาจากตัวประธานาธิบดีเองและการจัดพิมพ์ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ซึ่งข้องเท็จจริงบางประการนั้นขัดแย้งกับหลักฐานจากภายนอก ประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455<ref name="dailynk.com">http://www.dailynk.com/english/read.php?num=11335&cataId=nk03600</ref><ref name="BaikBong1">{{Cite book | author=[[Baik Bong]] | title=''Kim il Sung: Volume I: From Birth to Triumphant Return to Homeland'' | publisher=Dar Al-talia | location=Beirut, Lebanon | year=1973}}</ref> เดิมมีชื่อว่า คิม ซ็อง-จู ({{เกาหลี|김성주|金成柱}}) ที่หมู่บ้าน[[มันกย็องแด]] ในเมือง[[เปียงยาง]] [[จังหวัดพย็องอันใต้]]ของเกาหลีเหนือในปัจจุบัน เป็นบุตรชายคนโตของ[[คิม ฮย็อง-จิก]] ({{เกาหลี|김형직}}) และ[[คัง พัน-ซ็อก]] ({{เกาหลี|강반석}}) มีน้องชายสองคนได้แก่ คิม ช็อล-จู และคิม ย็อง-จู<ref name="BaikBong1"/>{{rp|15}} ครอบครัวของคิม ซ็อง-จู นับถือคริสต์ศาสนานิกาย[[เพรสไบทีเรียน]]<ref>{{Cite web |url=http://www.kimjongiliathemovie.com/learnmore.html |title=Kimjongilia – The Movie – Learn More |access-date=2014-04-05 |archive-date=2010-09-18 |archive-url=https://web.archive.org/web/20100918043045/http://www.kimjongiliathemovie.com/learnmore.html |url-status=dead }}</ref><ref>{{cite news| url=http://www.dailymail.co.uk/news/article-486079/PETER-HITCHENS-North-Korea-great-Marxist-bastion-real-life-Truman-show.html | location=London |work=Daily Mail | title=PETER HITCHENS: North Korea, the last great Marxist bastion, is a real-life Truman show | date=8 October 2007}}</ref><ref>{{cite news| url=http://www.independent.co.uk/arts-entertainment/books/reviews/the-rage-against-god-by-peter-hitchens-1965109.html | location=London |work=The Independent | title=The Rage Against God, By Peter Hitchens | first=Sholto | last=Byrnes | date=7 May 2010}}</ref> บิดา คิม ฮย็อง-จิก เป็นครู เกาหลีในขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของ[[จักรวรรดิญี่ปุ่น]] [[เกาหลีภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น]]นั้นประสบปัญหาภาวะข้าวยากหมากแพงเป็นเหตุให้ครอบครัวของคิม อิล-ซ็อง อพยพย้ายไปอาศัยยัง[[มณฑลจี๋หลิน]] แคว้น[[แมนจูเรีย]] ของ[[สาธารณรัฐจีน (2455–2492)|สาธารณรัฐจีน]]เมื่อประมาณ พ.ศ. 2463 เมื่อคิม ซ็อง-จู นั้นยังอายุน้อย |
|||
[[ไฟล์:Kim Il-sung in 1927.jpg|thumb|คิม ซ็อง-จู ในมณฑลจี๋หลิน ปี พ.ศ. 2470]] |
|||
คิมมีชื่อเกิดว่าคิม ซ็อง-จู เป็นบุตรของพ่อชื่อ[[คิม ฮย็อง-จิก]] กับแม่ชื่อ[[คัง พัน-ซ็อก]] เขามีน้องชายสองคนที่มีชื่อว่า {{Ill|คิม ช็อล-จู|ko|김철주 (군인)}} และ[[คิม ย็อง-จู]]<ref name=Suh1988>{{cite book | last = Suh | first = Dae-sook | title = Kim Il Sung: The North Korean Leader | location = New York | publisher = Columbia University Press | year = 1988 | isbn = 0231065736 | url = https://archive.org/details/00book729884 }}</ref>{{rp|3}} คิม ช็อล-จูเสียชีวิตขณะสู้รบต่อ[[เกาหลีภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น|พวกญี่ปุ่น]]และคิม ย็อง-จูเข้าร่วมรัฐบาลเกาหลีเหนือและถือเป็นผู้สืบทอดถัดจากพี่ชายก่อนถูกถอนออกจากตำแหน่ง<ref>{{Cite web |title=80th Anniversary Of The Birth Of Kim Chol Ju Minisheet 1996 |url=https://www.propagandaworld.org/product-page/80th-anniversary-of-the-birth-of-kim-chol-ju-minisheet-1996 |access-date=2023-09-19 |website=Propagandaworld |language=en}}</ref><ref>{{Cite book |last=Hoare |first=James |url=https://books.google.com/books?id=ZI-6NARaLusC&dq=Kim+Yong-ju+1920&pg=PA226 |title=Historical Dictionary of Democratic People's Republic of Korea |date=2012-07-13 |publisher=Scarecrow Press |isbn=978-0-8108-6151-0 |language=en}}</ref> |
|||
กล่าวกันว่าครอบครัวของคิมจาก[[ตระกูลช็อนจูคิม]]มีต้นกำเนิดจาก[[ช็อนจู]] [[จังหวัดช็อลลาเหนือ]] ใน ค.ศ. 1860 Kim Ung-u ทวดของเขา ตั้งถิ่นฐานที่ย่าน[[มันกย็องแด]]ของเปียงยาง มีรายงานว่าคิมถือกำเนิดในหมู่บ้านขนาดเล็กที่มีชื่อว่า [[เขตมันกย็องแด|Mangyungbong]] (เวลานั้นมีชื่อว่า Namni) ใกล้เปียงยางในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912<ref name="dailynk.com">{{cite web |url=http://www.dailynk.com/english/read.php?num=11335&cataId=nk03600 |title=Soviet Officer Reveals Secrets of Mangyongdae |work=[[Daily NK]] |access-date=15 April 2014 |url-status=dead |archive-url=https://web.archive.org/web/20140211183034/http://www.dailynk.com/english/read.php?num=11335&cataId=nk03600 |archive-date=11 February 2014 |date=2 January 2014 }}</ref><ref name="BaikBong1">{{Cite book | author=Baik Bong | title=Kim il Sung: Volume I: From Birth to Triumphant Return to Homeland | publisher=Dar Al-talia | location=Beirut, Lebanon | year=1973| author-link=Baik Bong }}</ref>{{rp|12}} หนังสืออัตชีวประวัติกึ่งทางการของคิมใน ค.ศ. 1964 ระบุว่าเขาเกิดในบ้านของแม่ที่ Chingjong ภายหลังเติบโตที่ Mangyungbong<ref>{{cite book |author=[[Andrei Lankov]] |title=The DPRK yesterday and today. Informal history of North Korea |url=https://www.litmir.me/br/?b=243895&p=1 |page=[https://www.litmir.me/br/?b=243895&p=73 73] |date=2004 |publisher=Восток-Запад (English: East-West) |location=Moscow |id=243895 |access-date=13 May 2020 |archive-date=2 August 2020 |archive-url=https://web.archive.org/web/20200802205207/https://www.litmir.me/br/?b=243895&p=1 |url-status=live }}</ref>{{rp|73}} |
|||
[[File:Kim Il-sung in 1927.jpg|thumb|upright|left|ภาพถ่ายของคิมใน ค.ศ. 1927 ตีพิมพ์ในอัตชีวประวัติ ''[[With the Century]]'']] |
|||
ครอบครัวของเขาหาทางหนีให้พ้นจากความยากจน คิมกล่าวว่าเขาเติบโตในครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์นิกาย[[เพรสไบทีเรียน]]อย่างเคร่งครัด ตาของเขาเป็น[[ศาสนาจารย์]]นิกายโปรเตสแตนต์ และพ่อของเขาเคยเข้าโรงเรียนสอนศาสนาและเคยเป็นพระอาวุโสในคริสต์จักรเพรสไบทีเรียน<ref>[http://www.kimjongiliathemovie.com/learnmore.html Kimjongilia – The Movie – Learn More] {{webarchive|url=https://web.archive.org/web/20100918043045/http://www.kimjongiliathemovie.com/learnmore.html |date=18 September 2010 }}</ref><ref>{{cite news|url=https://www.independent.co.uk/arts-entertainment/books/reviews/the-rage-against-god-by-peter-hitchens-1965109.html |location=London |work=The Independent |title=The Rage Against God, By Peter Hitchens |first=Sholto |last=Byrnes |date=7 May 2010 |url-status=live |archive-url=https://web.archive.org/web/20100512025421/http://www.independent.co.uk/arts-entertainment/books/reviews/the-rage-against-god-by-peter-hitchens-1965109.html |archive-date=12 May 2010 }}</ref> บันทึกรัฐบาลเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการระบุว่า ครอบครัวคิมมีส่วนในกิจกรรมต่อต้านญี่ปุ่นและหลบหนีไปยัง[[แมนจูเรีย]]ใน ค.ศ. 1920 พวกเขาไม่พอใจที่ญี่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรเกาหลีเหมือนกับครอบครัวเกาหลีส่วนใหญ่<ref name="BaikBong1"/>{{rp|12}} ทางญี่ปุ่นปราบปรามฝ่ายต่อต้านของเกาหลีอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีการจับกุมและคุมขังพลเมืองเกาหลีมากกว่า 52,000 คนใน ค.ศ. 1912 เพียงปีเดียว<ref name="BaikBong1" />{{rp|13}} สิ่งนี้บังคับให้ครอบครัวเกาหลีหลายกลุ่มหลบหนีออกจากคาบสมุทรเกาหลีและตั้งถิ่นฐานในแมนจูเรีย<ref>{{cite book |last=Sohn |first=Won Tai |url=https://books.google.com/books?id=4Hz119vPQYwC&pg=PA43 |title=Kim Il Sung and Korea's Struggle: An Unconventional Firsthand History |publisher=McFarland |year=2003 |isbn=978-0-7864-1589-2 |location=Jefferson |pages=42–43 |access-date=7 November 2021 |archive-date=7 November 2021 |archive-url=https://web.archive.org/web/20211107110508/https://books.google.com/books?id=4Hz119vPQYwC&pg=PA43 |url-status=live }}</ref> |
|||
ถึงกระนั้น พ่อแม่ของคิม โดยเฉพาะแม่ของเขา มีบทบาทในการต่อสู้ต่อต้านญี่ปุ่นที่กำลังกวาดล้างคาบสมุทร<ref name="BaikBong1" />{{rp|16}} โดยจุดประสงค์นั้นไม่ชัดเจน{{snd}}ทั้งในด้านภารกิจ ชาตินิยม หรือทั้งสองอย่าง<ref name="Lankov">{{cite book |last=Lankov |first=Andrei |title=From Stalin to Kim Il Sung: The Formation of North Korea 1945–1960 |publisher=Rutgers University Press |year=2002 |isbn=978-0813531175 }}</ref>{{rp|53}} |
|||
=== การรบในแมนจูเรีย === |
=== การรบในแมนจูเรีย === |
||
คิม อิล-ซ็อง ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่มณฑลจี๋หลิน เนื่องจากเติบโตมาในแมนจูเรีย คิม อิล-ซ็อง จึงพูด[[ภาษาจีนกลาง]]เป็นหลักและบางหลักฐานบอกว่า คิม อิล-ซ็อง นั้นพูด[[ภาษาเกาหลี]]ได้น้อยมากในวัยเยาว์<ref name="Rogue">{{cite book|author=Jasper Becker| title=''Rogue Regime : Kim Jong Il and the Looming Threat of North Korea''| url=http://books.google.com/books?id=UpZWfYqiVLMC&pg=44| date=May 1, 2005| publisher=[[Oxford University Press]]| isbn=978-0-19-803810-8}}</ref> ชีวประวัติซึ่งแต่งโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือบรรยายว่าคิม อิล-ซ็อง มีบทบาทและมีความกระตือรือร้นในการเคลื่อนไหวปลดแอกเกาหลีจากการปกครองของญี่ปุ่น และยึดมั่นในลัทธิคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งถูกทางการสาธารณรัฐจีนจับกุมตัว ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ไม่พบหลักฐานรายละเอียดว่า คิม ซ็อง-จู เข้าร่วมลัทธิคอมมิวนิสต์ได้อย่างไร เมื่อ พ.ศ. 2474 คิม ซ็อง-จู เข้าร่วม[[พรรคคอมมิวนิสต์จีน]] ในปีเดียวกันนั้นเองเกิด[[กรณีมุกเดน|เหตุการณ์มุกเดน]] เป็นเหตุให้จักรวรรดิญี่ปุ่นยกทัพเข้ารุกรานแมนจูเรีย นำไปสู่[[สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2]] คิม ซ็อง-จู จึงได้เข้าร่วมทหารกองโจรคอมมิวนิสต์จีนต่อสู้เพื่อต้านทานการรุกรานของญี่ปุ่น ระหว่างการต่อสู้ต้านทานญี่ปุ่นภายใต้ธงของรัฐบาลจีนนั้น คิม ซ็อง-จู ได้รู้จักกับเว่ย์ เจิ้งหมิน (Wei Zhengmin) ผู้บังคับบัญชาชาวจีนซึ่งมีอิทธิพลต่อแนวความคิดทางด้านลัทธิคอมมิวนิสต์และเปรียนเสมือนเป็นอาจารย์ของคิม ซ็อง-จู |
คิม อิล-ซ็อง ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่มณฑลจี๋หลิน เนื่องจากเติบโตมาในแมนจูเรีย คิม อิล-ซ็อง จึงพูด[[ภาษาจีนกลาง]]เป็นหลักและบางหลักฐานบอกว่า คิม อิล-ซ็อง นั้นพูด[[ภาษาเกาหลี]]ได้น้อยมากในวัยเยาว์<ref name="Rogue">{{cite book|author=Jasper Becker| title=''Rogue Regime : Kim Jong Il and the Looming Threat of North Korea''| url=http://books.google.com/books?id=UpZWfYqiVLMC&pg=44| date=May 1, 2005| publisher=[[Oxford University Press]]| isbn=978-0-19-803810-8}}</ref> ชีวประวัติซึ่งแต่งโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือบรรยายว่าคิม อิล-ซ็อง มีบทบาทและมีความกระตือรือร้นในการเคลื่อนไหวปลดแอกเกาหลีจากการปกครองของญี่ปุ่น และยึดมั่นในลัทธิคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งถูกทางการสาธารณรัฐจีนจับกุมตัว ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ไม่พบหลักฐานรายละเอียดว่า คิม ซ็อง-จู เข้าร่วมลัทธิคอมมิวนิสต์ได้อย่างไร เมื่อ พ.ศ. 2474 คิม ซ็อง-จู เข้าร่วม[[พรรคคอมมิวนิสต์จีน]] ในปีเดียวกันนั้นเองเกิด[[กรณีมุกเดน|เหตุการณ์มุกเดน]] เป็นเหตุให้จักรวรรดิญี่ปุ่นยกทัพเข้ารุกรานแมนจูเรีย นำไปสู่[[สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2]] คิม ซ็อง-จู จึงได้เข้าร่วมทหารกองโจรคอมมิวนิสต์จีนต่อสู้เพื่อต้านทานการรุกรานของญี่ปุ่น ระหว่างการต่อสู้ต้านทานญี่ปุ่นภายใต้ธงของรัฐบาลจีนนั้น คิม ซ็อง-จู ได้รู้จักกับเว่ย์ เจิ้งหมิน (Wei Zhengmin) ผู้บังคับบัญชาชาวจีนซึ่งมีอิทธิพลต่อแนวความคิดทางด้านลัทธิคอมมิวนิสต์และเปรียนเสมือนเป็นอาจารย์ของคิม ซ็อง-จู |
||
พ.ศ. 2478 คิม ซ็องจูเปลี่ยนชื่อของตนเองเป็นคิม อิล-ซ็อง คิม อิล-ซ็อง ไต่เต้าสายการบังคับบัญชาของกองทัพจีนในแมนจูเรียขึ้นมาตามลำดับ จนกระทั่งได้เป็นผู้บังคับบัญชามีกองกำลังเป็นของตนเอง สงครามจีน-ญี่ปุ่นอันเป็นส่วนหนึ่งของ[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]ยืดเยื้อยาวนานจนกระทั่งกองทัพฝ่ายจีนในแมนจูเรียถูกลดทอนกำลังลงและสูญเสียผู้บังคับบัญชาไปมาก คิม อิล-ซ็อง ซึ่งในขณะนั้นเป็นหนึ่งในผู้บังคับบัญชาเพียงไม่กี่คนของจีนที่ยังมีชีวิตรอด ถูกกองทัพญี่ปุ่นโจมตีจนต้องล่าถอยข้าม[[แม่น้ำอามูร์]]เข้าไปยังอาณาเขตของ[[สหภาพโซเวียต]] เมื่อ พ.ศ. 2483 คิม อิล-ซ็อง พำนักอยู่ที่เมืองเวียตสกอย (Vyatskoye) [[ดินแดนฮาบารอฟสค์]] (Khabarovsk Krai) [[ประเทศรัสเซีย]]ในปัจจุบัน และเข้าร่วม[[กองทัพแดง]] ของสหภาพโซเวียต ที่เมืองเวียดสกอยในปี พ.ศ. 2484 คิม อิล-ซ็อง ได้สมรสกับนาง[[คิม จ็อง-ซุก]] ({{เกาหลี|김정숙}}) นางคิม จ็อง-ซุก ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกคือ คิม จ็อง-อิล ในปีเดียวกัน<ref name="Lintner">Lintner, Bertil. Great Leader, Dear Leader: Demystifying North Korea under the Kim Clan. Chiang Mai, Thailand: Silkworm Books, 2005.</ref> |
พ.ศ. 2478 คิม ซ็องจูเปลี่ยนชื่อของตนเองเป็นคิม อิล-ซ็อง คิม อิล-ซ็อง ไต่เต้าสายการบังคับบัญชาของกองทัพจีนในแมนจูเรียขึ้นมาตามลำดับ จนกระทั่งได้เป็นผู้บังคับบัญชามีกองกำลังเป็นของตนเอง สงครามจีน-ญี่ปุ่นอันเป็นส่วนหนึ่งของ[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]ยืดเยื้อยาวนานจนกระทั่งกองทัพฝ่ายจีนในแมนจูเรียถูกลดทอนกำลังลงและสูญเสียผู้บังคับบัญชาไปมาก คิม อิล-ซ็อง ซึ่งในขณะนั้นเป็นหนึ่งในผู้บังคับบัญชาเพียงไม่กี่คนของจีนที่ยังมีชีวิตรอด ถูกกองทัพญี่ปุ่นโจมตีจนต้องล่าถอยข้าม[[แม่น้ำอามูร์]]เข้าไปยังอาณาเขตของ[[สหภาพโซเวียต]] เมื่อ พ.ศ. 2483 คิม อิล-ซ็อง พำนักอยู่ที่เมืองเวียตสกอย (Vyatskoye) [[ดินแดนฮาบารอฟสค์]] (Khabarovsk Krai) [[ประเทศรัสเซีย]]ในปัจจุบัน และเข้าร่วม[[กองทัพแดง]] ของสหภาพโซเวียต ที่เมืองเวียดสกอยในปี พ.ศ. 2484 คิม อิล-ซ็อง ได้สมรสกับนาง[[คิม จ็อง-ซุก]] ({{เกาหลี|김정숙}}) นางคิม จ็อง-ซุก ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกคือ คิม จ็อง-อิล ในปีเดียวกัน<ref name="Lintner">Lintner, Bertil. Great Leader, Dear Leader: Demystifying North Korea under the Kim Clan. Chiang Mai, Thailand: Silkworm Books, 2005.</ref> |
||
== ผู้นำเกาหลีเหนือ == |
|||
=== หนทางสู่ผู้นำเกาหลีเหนือ === |
=== หนทางสู่ผู้นำเกาหลีเหนือ === |
||
เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488 จักรวรรดิญี่ปุ่นประกาศยอมจำนนต่อสงครามโลกครั้งที่สอง และทัพโซเวียตเข้ายึดเมืองเปียงยาง เกาหลีพ้นจากการเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น และด้วยมติของ[[สหประชาชาติ]]ให้เกาหลีอยู่ในภาวะ[[ทรัสตี]] (Trusteeship) โดยสหภาพโซเวียตเข้ากำกับดูแลดินแดนเกาหลีทางตอนเหนือ ในขณะที่[[สหรัฐอเมริกา]]กำกับดูแลเกาหลีทางตอนใต้ [[โจเซฟ สตาลิน]] (Joseph Stalin) ผู้นำสหภาพโซเวียตต้องการสรรหาผู้นำชาวเกาหลีซึ่งจะปกครองเกาหลีส่วนเหนือที่อยู่ภายใต้การล่าอาณานิคมของโซเวียตต่อไป ลาฟเรนตี เบเรีย (Lavrentiy Beria) ได้แนะนำคิม อิล-ซ็อง ต่อสตาลิน<ref name="dailynk.com"/><ref>http://ysfine.com/wisdom/wk01.html Beria/Kim Il-sung</ref><ref name="scmp.com">http://www.scmp.com/article/727755/kim-il-sungs-secret-history</ref> ให้เป็นผู้ปกครองดินแดนเกาหลีเหนือ คิม อิล-ซ็อง จึงเดินทางกลับมายังเกาหลีโดยเทียบท่าที่เมืองวอนซันในเดือนกันยายน พ.ศ. 2488<ref name="scmp.com"/><ref>{{cite book|title=Under the Loving Care of the Fatherly Leader: North Korea and the Kim Dynasty|url=https://archive.org/details/underlovingcareo0000mart|author=Bradley K. Martin|publisher=Thomas Dunne Books|year=2004|isbn=978-0-312-32322-6|page=[https://archive.org/details/underlovingcareo0000mart/page/51 51]}}</ref> ในเดือนธันวาคมสหภาพโซเวียตประกาศให้คิม อิล-ซ็อง เป็นหัวหน้าพรรคแรงงานล่าอาณานิคมเกาหลี<ref name="Bradley K. Martin 2004 56">{{cite book|title=Under the Loving Care of the Fatherly Leader: North Korea and the Kim Dynasty|url=https://archive.org/details/underlovingcareo0000mart|author=Bradley K. Martin|publisher=Thomas Dunne Books|year=2004|isbn=978-0-312-32322-6|page=[https://archive.org/details/underlovingcareo0000mart/page/56 56]}}</ref> แม้ว่าพรรคแรงงานแห่งเกาหลีเดิมนั้นมีที่ทำการอยู่ที่[[โซล]] และมีหัวหน้าอยู่ก่อนแล้วคือพัก ฮ็อน-ย็อง ({{เกาหลี|박헌영}}) ด้วยการสนับสนุนของสหภาพโซเวียต คิม อิล-ซ็อง จึงสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำคอมมิวนิสต์สูงสุดของเกาหลีเหนือได้สำเร็จ<ref name="scmp.com"/><ref name="Bradley K. Martin 2004 56"/> |
เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488 จักรวรรดิญี่ปุ่นประกาศยอมจำนนต่อสงครามโลกครั้งที่สอง และทัพโซเวียตเข้ายึดเมืองเปียงยาง เกาหลีพ้นจากการเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น และด้วยมติของ[[สหประชาชาติ]]ให้เกาหลีอยู่ในภาวะ[[ทรัสตี]] (Trusteeship) โดยสหภาพโซเวียตเข้ากำกับดูแลดินแดนเกาหลีทางตอนเหนือ ในขณะที่[[สหรัฐอเมริกา]]กำกับดูแลเกาหลีทางตอนใต้ [[โจเซฟ สตาลิน]] (Joseph Stalin) ผู้นำสหภาพโซเวียตต้องการสรรหาผู้นำชาวเกาหลีซึ่งจะปกครองเกาหลีส่วนเหนือที่อยู่ภายใต้การล่าอาณานิคมของโซเวียตต่อไป ลาฟเรนตี เบเรีย (Lavrentiy Beria) ได้แนะนำคิม อิล-ซ็อง ต่อสตาลิน<ref name="dailynk.com"/><ref>http://ysfine.com/wisdom/wk01.html Beria/Kim Il-sung</ref><ref name="scmp.com">http://www.scmp.com/article/727755/kim-il-sungs-secret-history</ref> ให้เป็นผู้ปกครองดินแดนเกาหลีเหนือ คิม อิล-ซ็อง จึงเดินทางกลับมายังเกาหลีโดยเทียบท่าที่เมืองวอนซันในเดือนกันยายน พ.ศ. 2488<ref name="scmp.com"/><ref>{{cite book|title=Under the Loving Care of the Fatherly Leader: North Korea and the Kim Dynasty|url=https://archive.org/details/underlovingcareo0000mart|author=Bradley K. Martin|publisher=Thomas Dunne Books|year=2004|isbn=978-0-312-32322-6|page=[https://archive.org/details/underlovingcareo0000mart/page/51 51]}}</ref> ในเดือนธันวาคมสหภาพโซเวียตประกาศให้คิม อิล-ซ็อง เป็นหัวหน้าพรรคแรงงานล่าอาณานิคมเกาหลี<ref name="Bradley K. Martin 2004 56">{{cite book|title=Under the Loving Care of the Fatherly Leader: North Korea and the Kim Dynasty|url=https://archive.org/details/underlovingcareo0000mart|author=Bradley K. Martin|publisher=Thomas Dunne Books|year=2004|isbn=978-0-312-32322-6|page=[https://archive.org/details/underlovingcareo0000mart/page/56 56]}}</ref> แม้ว่าพรรคแรงงานแห่งเกาหลีเดิมนั้นมีที่ทำการอยู่ที่[[โซล]] และมีหัวหน้าอยู่ก่อนแล้วคือพัก ฮ็อน-ย็อง ({{เกาหลี|박헌영}}) ด้วยการสนับสนุนของสหภาพโซเวียต คิม อิล-ซ็อง จึงสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำคอมมิวนิสต์สูงสุดของเกาหลีเหนือได้สำเร็จ<ref name="scmp.com"/><ref name="Bradley K. Martin 2004 56"/> |
||
บรรทัด 85: | บรรทัด 173: | ||
วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 ประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง แห่งเกาหลีเหนือ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเมื่ออายุ 82 ปี หลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของคิม อิล-ซ็อง ผ่านไปแล้วกว่า 34 ชั่วโมง รัฐบาลเกาหลีเหนือจึงประกาศการถึงแก่อสัญกรรมของคิม อิล-ซ็อง อย่างเป็นทางการ และประกาศช่วงเวลาการไว้ทุกข์เป็นเวลาสิบวัน ซึ่งงานรื่นเริงทุกชนิดถูกห้าม มีชาวเกาหลีเหนือเข้าร่วมพิธีศพของประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง กว่าหนึ่งพันคนในวันที่ 17 กรกฎาคม ศพของคิม อิล-ซ็อง ตั้งไว้ที่[[วังสุริยะคึมซูซัน]] (Kumsusan Palace of the Sun) ในเมืองเปียงยาง อันเป็นที่พำนักอยู่เดิมของประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ |
วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 ประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง แห่งเกาหลีเหนือ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเมื่ออายุ 82 ปี หลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของคิม อิล-ซ็อง ผ่านไปแล้วกว่า 34 ชั่วโมง รัฐบาลเกาหลีเหนือจึงประกาศการถึงแก่อสัญกรรมของคิม อิล-ซ็อง อย่างเป็นทางการ และประกาศช่วงเวลาการไว้ทุกข์เป็นเวลาสิบวัน ซึ่งงานรื่นเริงทุกชนิดถูกห้าม มีชาวเกาหลีเหนือเข้าร่วมพิธีศพของประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง กว่าหนึ่งพันคนในวันที่ 17 กรกฎาคม ศพของคิม อิล-ซ็อง ตั้งไว้ที่[[วังสุริยะคึมซูซัน]] (Kumsusan Palace of the Sun) ในเมืองเปียงยาง อันเป็นที่พำนักอยู่เดิมของประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ |
||
== ชีวิตส่วนตัว == |
|||
== "ประธานาธิบดีตลอดกาล" == |
|||
{{see also|ตระกูลคิม (ประเทศเกาหลีเหนือ)}} |
|||
หลังจากที่ประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว คิม จ็อง-อิล ผู้เป็นบุตรชายได้สืบทอดตำแหน่งเลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี อันเป็นตำแหน่งสูงสุดของพรรคแรงงานเกาหลี และตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศ (Chairman of the National Defence Commission) แต่คิม จ็อง-อิล นั้นไม่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีต่อจากบิดา การแก้ไขรัฐธรรมนูญปีพ.ศ. 2538 ได้ยกเลิกตำแหน่งประธานาธิบดีและยกย่องให้อดีตประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็องนั้น เป็น"ประธานาธิบดีตลอดกาล" (Eternal President; {{เกาหลี|영원한 주석}}) การแก้ไขรัฐธรรมนูญปีพ.ศ. 2556 ยังคงยืนยันสถานะความเป็นประธานาธิบดีตลอดกาลของคิม อิล-ซ็อง |
|||
== สิ่งสืบทอด == |
|||
ปัจจุบันสถานที่และสถาบันหลายแห่งในเกาหลีเหนือใช้ชื่อของคิม อิล-ซ็อง อันเป็นส่วนหนึ่งของลัทธิบูชาตัวบุคคล ยกตัวอย่างเช่น [[จตุรัสคิมอิลซ็อง]] (Kim Il-sung Square) อันเป็นจตุรัสใหญ่ของนครเปียงยาง หรือ [[มหาวิทยาลัยคิมอิลซ็อง]] |
|||
{{Gallery | mode = nolines | align = center |
|||
| file:Kim Il Sung Portrait-3.jpg| [[ภาพเหมือนของคิม อิล-ซ็อง และคิม จ็อง-อิล|ภาพเหมือนทางการหลังเสียชีวิต]]ของคิม อิล-ซ็องที่มักพบเห็นในที่สาธารณะ |
|||
| file:Kim Il-sung.jpg | ภาพของคิมในฐานะ[[ดวงอาทิตย์]]บนจิตรกรรมฝาผนังโฆษณาชวนเชื่อ ชื่อตัว ''[[อิล-ซ็อง]]'' หมายถึง 'กลายเป็นดวงอาทิตย์' ทำให้วันเกิดของเขาจึงกลายเป็น "[[วันแห่งสุริยะ]]" (Day of the Sun) |
|||
| file:Paying Their Respects.jpg | อนุเสาวรีย์เดิมของคิม อิล-ซ็องที่[[อนุสรณ์สถานใหญ่เขามันซู|เนินเขามันซูแด]] (1972–2012) อนุเสาวรีย์ของ[[คิม จ็อง-อิล]]ได้รับการติดตั้งในภายหลัง |
|||
| file:Pyongyang Mural.jpg | จิตรกรรมฝาผนังใน[[เปียงยาง]]ที่มีภาพคิม อิล-ซ็องในวัยหนุ่มกำลังกล่าวปราศรัย |
|||
}} |
|||
คิม อิล-ซ็องได้รับการเคารพนับถืออย่างเทพเจ้าในช่วงที่มีชีวิตอยู่ แต่ลัทธิบูชาบุคคลของเขาไม่ได้ขยายไปไกลกว่าของเขตประเทศตนเอง<ref>{{Cite book|last=Young|first=Benjamin R.|url=https://books.google.com/books?id=wRgfEAAAQBAJ&pg=PT99|title=Guns, Guerillas, and the Great Leader: North Korea and the Third World|date=6 April 2021|publisher=Stanford University Press|isbn=978-1-5036-2764-2|pages=99|language=en|quote=Kim Il Sung was a godlike figure within the DPRK but his personality cult struggled to extend beyond the North Korean borders.|access-date=25 November 2021|archive-date=25 November 2021|archive-url=https://web.archive.org/web/20211125171903/https://books.google.com/books?id=wRgfEAAAQBAJ&pg=PT99|url-status=live}}</ref> มีรูปปั้นของเขาในประเทศเกาหลีเหนือมากกว่า 500 แห่ง คล้ายกับรูปปั้นและอนุสรณ์หลายแห่งที่ผู้นำในประเทศกลุ่มตะวันออกให้ติดตั้งไว้<ref name=portal>{{cite book|last=Portal|first=Jane|title=Art under control in North Korea|url=https://archive.org/details/artundercontroli0000port|publisher=Reaktion Books|year=2005|page=[https://archive.org/details/artundercontroli0000port/page/82 82]|isbn=978-1-86189-236-2}}</ref> รูปปั้นที่สำคัญที่สุดอยู่ที่[[มหาวิทยาลัยคิมอิลซ็อง]] [[สนามกีฬาคิม อิล-ซ็อง]] [[อนุสรณ์สถานใหญ่เขามันซู|เนินเขามันซูแด]] สะพานคิม อิล-ซ็อง และรูปปั้นคิม อิล-ซ็องผู้เป็นอมตะ (Immortal Statue of Kim Il Sung) รูปปั้นบางส่วนถูกชาวเกาหลีเหนือบางคนที่ไม่เห็นด้วยทำลายด้วยระเบิดหรือทำให้เสียหายด้วยการวาดรอยขูดขีดเขียน<ref name="Rogue"/>{{rp|201}}<ref>{{cite web |url=http://english.chosun.com/site/data/html_dir/2012/02/13/2012021301372.html |work=[[The Chosun Ilbo]] |title=N.Korean Dynasty's Authority Challenged |date=13 February 2012 |access-date=9 November 2012 |url-status=dead |archive-url=https://web.archive.org/web/20120929195034/http://english.chosun.com/site/data/html_dir/2012/02/13/2012021301372.html |archive-date=29 September 2012 }}</ref> มีการติดตั้งอนุสรณ์ ''Yŏng Saeng'' ("ชีวิตอมตะ") ทั่วประเทศเพื่ออุทิศแด่ "ผู้นำตลอดกาล" ที่ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว<ref name="Controversy Stirs over Kim Monument at PUST (NK Daily)">{{cite web|url=http://www.dailynk.com/english/read.php?cataId=nk01500&num=6222|title=Controversy Stirs Over Kim Monument at PUST|work=[[Daily NK]]|date=9 April 2010 |archive-url=https://web.archive.org/web/20100412062252/http://www.dailynk.com/english/read.php?cataId=nk01500&num=6222 |archive-date=12 April 2010|access-date=24 April 2010}}</ref> |
|||
ของขวัญหลายพันชิ้นจากผู้นำต่างประเทศหลายคนที่ให้คิม อิล-ซ็องได้รับการจัดแสดงที่[[นิทรรศการสันถวไมตรีนานาชาติ]]<ref name="age">{{cite news|url=http://www.theage.com.au/news/travel/north-korean-shows-off-leaders-gifts/2006/12/21/1166290663252.html|title=North Korean museum shows off leaders' gifts|agency=Reuters|date=21 December 2006|work=[[The Age]]|access-date=9 May 2018|archive-date=5 March 2013|archive-url=https://web.archive.org/web/20130305184835/http://www.theage.com.au/news/travel/north-korean-shows-off-leaders-gifts/2006/12/21/1166290663252.html|url-status=live}}</ref> |
|||
"[[วันแห่งสุริยะ]]" วันเกิดของคิม อิล-ซ็อง ได้รับการฉลองทุกปีในฐานะ[[วันหยุดราชการในประเทศเกาหลีเหนือ]]<ref name="ency_Birt">{{Cite book| chapter = Birthday of Kim Il-sung| publisher = Omnigraphics| via = TheFreeDictionary.com| title = Holidays, Festivals, and Celebrations of the World Dictionary| edition = Fourth| date = 2010| access-date = 3 May 2015| chapter-url = http://encyclopedia2.thefreedictionary.com/Birthday+of+Kim+Il-Sung| archive-date = 12 June 2022| archive-url = https://web.archive.org/web/20220612084452/https://encyclopedia2.thefreedictionary.com/Birthday+of+Kim+Il-Sung| url-status = live}}</ref> |
|||
== ครอบครัว == |
== ครอบครัว == |
||
บรรทัด 107: | บรรทัด 206: | ||
** บุตรชายคนที่ 4: [[คิม ย็อง-อิล]] ({{เกาหลี|김영일}} พ.ศ. 2498 – ปัจจุบัน) |
** บุตรชายคนที่ 4: [[คิม ย็อง-อิล]] ({{เกาหลี|김영일}} พ.ศ. 2498 – ปัจจุบัน) |
||
** บุตรสาวคนที่ 3: [[คิม กย็อง-จิน]] ({{เกาหลี|김경진}}) |
** บุตรสาวคนที่ 3: [[คิม กย็อง-จิน]] ({{เกาหลี|김경진}}) |
||
{{clear}} |
|||
== หมายเหตุ == |
|||
{{Notelist}} |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
{{รายการอ้างอิง}} |
{{รายการอ้างอิง}} |
||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
|||
{{Commons category}} |
|||
{{Wikiquote}} |
|||
* [http://www.wimp.com/ceausescus-visit-to-pyongyang-north-korea-in-1971/ Nicolae Ceausescu's visit to Pyongyang, North Korea, in 1971] |
|||
* [https://digitalarchive.wilsoncenter.org/collection/138/conversations-with-kim-il-sung "Conversations with Kim Il Sung"] at the Wilson Center Digital Archive |
|||
* {{Curlie|Regional/Asia/North_Korea/Society_and_Culture/History/Kim_Il_Sung}} |
|||
{{Navboxes |
|||
|titlestyle = background:#FFCB99; |
|||
|list1 = |
|||
{{ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ}} |
{{ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ}} |
||
{{นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ}} |
{{นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ}} |
||
{{ตระกูลคิมเกาหลีเหนือ}} |
{{ตระกูลคิมเกาหลีเหนือ}} |
||
}} |
|||
{{Authority control}} |
|||
{{birth|1912}} |
{{birth|1912}} |
||
{{death|1994}} |
{{death|1994}} |
||
[[หมวดหมู่:คิม อิล-ซ็อง| ]] |
[[หมวดหมู่:คิม อิล-ซ็อง| ]] |
||
[[หมวดหมู่:ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ]] |
|||
[[หมวดหมู่:เลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี]] |
[[หมวดหมู่:เลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี]] |
||
[[หมวดหมู่:นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ]] |
[[หมวดหมู่:นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ]] |
||
บรรทัด 130: | บรรทัด 248: | ||
[[หมวดหมู่:ลัทธิต่อต้านอเมริกา]] |
[[หมวดหมู่:ลัทธิต่อต้านอเมริกา]] |
||
[[หมวดหมู่:ทหารชาวโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่สอง]] |
[[หมวดหมู่:ทหารชาวโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่สอง]] |
||
[[หมวดหมู่:บุคคลที่เคยนับถือศาสนาคริสต์]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:08, 15 มีนาคม 2567
คิม อิล-ซ็อง | |
---|---|
김일성 | |
คิม ป. คริสต์ทศวรรษ 1960 | |
เลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี | |
ดำรงตำแหน่ง 12 ตุลาคม 1966 – 8 กรกฎาคม 1994 | |
เลขาธิการ | |
ก่อนหน้า | ตนเอง (ในฐานะประธาน) |
ถัดไป | คิม จ็อง-อิล |
ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ | |
ดำรงตำแหน่ง 28 ธันวาคม 1972 – 8 กรกฎาคม 1994 | |
หัวหน้ารัฐบาล | ดูรายชื่อ
|
รองประธานาธิบดี | ดูรายชื่อ
|
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง[a] |
ถัดไป | ยกเลิกตำแหน่ง[b] |
ประธานพรรคแรงงานเกาหลี | |
ดำรงตำแหน่ง 24 มิถุนายน 1949 – 12 ตุลาคม 1966 | |
รองประธาน | ดูรายชื่อ
|
ก่อนหน้า | คิม ดู-บง |
ถัดไป | ตนเอง (ในฐานะเลขาธิการพรรค) |
นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ | |
ดำรงตำแหน่ง 9 กันยายน 1948 – 28 ธันวาคม 1972 | |
รองนายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือคนแรก | คิม อิล |
รองนายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ | ดูรายชื่อ
|
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | คิม อิล |
ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพประชาชนเกาหลี | |
ดำรงตำแหน่ง 5 กรกฎาคม 1950 – 24 ธันวาคม 1991 | |
ก่อนหน้า | เช ย็อง-ก็อน |
ถัดไป | คิม จ็อง-อิล |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | คิม ซ็อง-จู 15 เมษายน ค.ศ. 1912 นัมนี จังหวัดเฮอังใต้ โชเซ็น จักรวรรดิญี่ปุ่น(ปัจจุบันคือมันกย็องแด เปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ) |
เสียชีวิต | 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1994 บ้านพักฮยังซัน เทศมณฑลฮยังซัน จังหวัดพย็องอันเหนือ ประเทศเกาหลีเหนือ | (82 ปี)
ที่ไว้ศพ | วังสุริยะคึมซูซัน เปียงยาง |
เชื้อชาติ | เกาหลีเหนือ |
พรรคการเมือง | พรรคแรงงานเกาหลี |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น |
|
คู่สมรส |
|
บุตร | 6 คน, รวมคิม จ็อง-อิล, คิม มัน-อิล, คิม กย็อง-ฮี และคิม พย็อง-อิล |
บุพการี | |
ความสัมพันธ์ | ตระกูลคิม |
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | |
สังกัด | |
ประจำการ |
|
ยศ | |
หน่วย | กองปืนไรเฟิลแยกที่ 88, กองทัพแดง |
บังคับบัญชา | ทั้งหมด (ผู้บัญชาการทหารสูงสุด) |
สงคราม/การสู้รบ | |
ชื่อเกาหลี | |
โชซ็อนกึล | 김일성 |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Gim Il(-)seong |
เอ็มอาร์ | Kim Ilsŏng |
ชื่อเกิด | |
โชซ็อนกึล | 김성주 |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Gim Seong(-)ju |
เอ็มอาร์ | Kim Sŏngju |
สมาชิกสถาบันกลาง
ตำแหน่งอื่น ๆ
| |
คิม อิล-ซ็อง (เกาหลี: 김일성; ชื่อเกิด คิม ซ็อง-จู;[c] 15 เมษายน ค.ศ. 1912 – 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1994) เป็นผู้นำคนแรกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเมื่อ พ.ศ. 2492 ถึง พ.ศ. 2515 และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ พ.ศ. 2515 กระทั่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. 2537[2] นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแรงงานเกาหลี ตั้งแต่ พ.ศ. 2493 จนถึง พ.ศ. 2537 คิม อิล-ซ็องเป็นที่รู้จักกว้างขวางในฐานะผู้เผด็จการในระบอบคอมมิวนิสต์ของประเทศเกาหลีเหนือ โดยดำรงตำแหน่งอยู่ในอำนาจในฐานะผู้นำของประเทศเกาหลีเหนือเป็นเวลายาวนานถึงสี่สิบกว่าปี ดำรงตำแหน่งในช่วงสำคัญในประวัติศาสตร์อันได้แก่สงครามเย็นและสงครามเกาหลี มีการพัฒนาลัทธิบูชาบุคคลขึ้นมาสำหรับคิม อิล-ซ็องโดยเฉพาะ หลังคิม อิล-ซ็อง ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว รัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้การนำของประธานาธิบดีคิม จ็อง-อิล บุตรชาย ได้ให้สมญานามแก่เขาว่า "ประธานาธิบดีตลอดกาล" (Eternal President เกาหลี: 영원한 주석; ฮันจา: Yeongwonhan Juseok)[3] เมื่อ พ.ศ. 2554
ชีวิตวัยเยาว์
ภูมิหลังครอบครัว
คิมมีชื่อเกิดว่าคิม ซ็อง-จู เป็นบุตรของพ่อชื่อคิม ฮย็อง-จิก กับแม่ชื่อคัง พัน-ซ็อก เขามีน้องชายสองคนที่มีชื่อว่า คิม ช็อล-จู และคิม ย็อง-จู[4]: 3 คิม ช็อล-จูเสียชีวิตขณะสู้รบต่อพวกญี่ปุ่นและคิม ย็อง-จูเข้าร่วมรัฐบาลเกาหลีเหนือและถือเป็นผู้สืบทอดถัดจากพี่ชายก่อนถูกถอนออกจากตำแหน่ง[5][6]
กล่าวกันว่าครอบครัวของคิมจากตระกูลช็อนจูคิมมีต้นกำเนิดจากช็อนจู จังหวัดช็อลลาเหนือ ใน ค.ศ. 1860 Kim Ung-u ทวดของเขา ตั้งถิ่นฐานที่ย่านมันกย็องแดของเปียงยาง มีรายงานว่าคิมถือกำเนิดในหมู่บ้านขนาดเล็กที่มีชื่อว่า Mangyungbong (เวลานั้นมีชื่อว่า Namni) ใกล้เปียงยางในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912[7][8]: 12 หนังสืออัตชีวประวัติกึ่งทางการของคิมใน ค.ศ. 1964 ระบุว่าเขาเกิดในบ้านของแม่ที่ Chingjong ภายหลังเติบโตที่ Mangyungbong[9]: 73
ครอบครัวของเขาหาทางหนีให้พ้นจากความยากจน คิมกล่าวว่าเขาเติบโตในครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายเพรสไบทีเรียนอย่างเคร่งครัด ตาของเขาเป็นศาสนาจารย์นิกายโปรเตสแตนต์ และพ่อของเขาเคยเข้าโรงเรียนสอนศาสนาและเคยเป็นพระอาวุโสในคริสต์จักรเพรสไบทีเรียน[10][11] บันทึกรัฐบาลเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการระบุว่า ครอบครัวคิมมีส่วนในกิจกรรมต่อต้านญี่ปุ่นและหลบหนีไปยังแมนจูเรียใน ค.ศ. 1920 พวกเขาไม่พอใจที่ญี่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรเกาหลีเหมือนกับครอบครัวเกาหลีส่วนใหญ่[8]: 12 ทางญี่ปุ่นปราบปรามฝ่ายต่อต้านของเกาหลีอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีการจับกุมและคุมขังพลเมืองเกาหลีมากกว่า 52,000 คนใน ค.ศ. 1912 เพียงปีเดียว[8]: 13 สิ่งนี้บังคับให้ครอบครัวเกาหลีหลายกลุ่มหลบหนีออกจากคาบสมุทรเกาหลีและตั้งถิ่นฐานในแมนจูเรีย[12]
ถึงกระนั้น พ่อแม่ของคิม โดยเฉพาะแม่ของเขา มีบทบาทในการต่อสู้ต่อต้านญี่ปุ่นที่กำลังกวาดล้างคาบสมุทร[8]: 16 โดยจุดประสงค์นั้นไม่ชัดเจน – ทั้งในด้านภารกิจ ชาตินิยม หรือทั้งสองอย่าง[13]: 53
การรบในแมนจูเรีย
คิม อิล-ซ็อง ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่มณฑลจี๋หลิน เนื่องจากเติบโตมาในแมนจูเรีย คิม อิล-ซ็อง จึงพูดภาษาจีนกลางเป็นหลักและบางหลักฐานบอกว่า คิม อิล-ซ็อง นั้นพูดภาษาเกาหลีได้น้อยมากในวัยเยาว์[14] ชีวประวัติซึ่งแต่งโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือบรรยายว่าคิม อิล-ซ็อง มีบทบาทและมีความกระตือรือร้นในการเคลื่อนไหวปลดแอกเกาหลีจากการปกครองของญี่ปุ่น และยึดมั่นในลัทธิคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งถูกทางการสาธารณรัฐจีนจับกุมตัว ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ไม่พบหลักฐานรายละเอียดว่า คิม ซ็อง-จู เข้าร่วมลัทธิคอมมิวนิสต์ได้อย่างไร เมื่อ พ.ศ. 2474 คิม ซ็อง-จู เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในปีเดียวกันนั้นเองเกิดเหตุการณ์มุกเดน เป็นเหตุให้จักรวรรดิญี่ปุ่นยกทัพเข้ารุกรานแมนจูเรีย นำไปสู่สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 คิม ซ็อง-จู จึงได้เข้าร่วมทหารกองโจรคอมมิวนิสต์จีนต่อสู้เพื่อต้านทานการรุกรานของญี่ปุ่น ระหว่างการต่อสู้ต้านทานญี่ปุ่นภายใต้ธงของรัฐบาลจีนนั้น คิม ซ็อง-จู ได้รู้จักกับเว่ย์ เจิ้งหมิน (Wei Zhengmin) ผู้บังคับบัญชาชาวจีนซึ่งมีอิทธิพลต่อแนวความคิดทางด้านลัทธิคอมมิวนิสต์และเปรียนเสมือนเป็นอาจารย์ของคิม ซ็อง-จู
พ.ศ. 2478 คิม ซ็องจูเปลี่ยนชื่อของตนเองเป็นคิม อิล-ซ็อง คิม อิล-ซ็อง ไต่เต้าสายการบังคับบัญชาของกองทัพจีนในแมนจูเรียขึ้นมาตามลำดับ จนกระทั่งได้เป็นผู้บังคับบัญชามีกองกำลังเป็นของตนเอง สงครามจีน-ญี่ปุ่นอันเป็นส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่สองยืดเยื้อยาวนานจนกระทั่งกองทัพฝ่ายจีนในแมนจูเรียถูกลดทอนกำลังลงและสูญเสียผู้บังคับบัญชาไปมาก คิม อิล-ซ็อง ซึ่งในขณะนั้นเป็นหนึ่งในผู้บังคับบัญชาเพียงไม่กี่คนของจีนที่ยังมีชีวิตรอด ถูกกองทัพญี่ปุ่นโจมตีจนต้องล่าถอยข้ามแม่น้ำอามูร์เข้าไปยังอาณาเขตของสหภาพโซเวียต เมื่อ พ.ศ. 2483 คิม อิล-ซ็อง พำนักอยู่ที่เมืองเวียตสกอย (Vyatskoye) ดินแดนฮาบารอฟสค์ (Khabarovsk Krai) ประเทศรัสเซียในปัจจุบัน และเข้าร่วมกองทัพแดง ของสหภาพโซเวียต ที่เมืองเวียดสกอยในปี พ.ศ. 2484 คิม อิล-ซ็อง ได้สมรสกับนางคิม จ็อง-ซุก (เกาหลี: 김정숙) นางคิม จ็อง-ซุก ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกคือ คิม จ็อง-อิล ในปีเดียวกัน[15]
ผู้นำเกาหลีเหนือ
หนทางสู่ผู้นำเกาหลีเหนือ
เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488 จักรวรรดิญี่ปุ่นประกาศยอมจำนนต่อสงครามโลกครั้งที่สอง และทัพโซเวียตเข้ายึดเมืองเปียงยาง เกาหลีพ้นจากการเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น และด้วยมติของสหประชาชาติให้เกาหลีอยู่ในภาวะทรัสตี (Trusteeship) โดยสหภาพโซเวียตเข้ากำกับดูแลดินแดนเกาหลีทางตอนเหนือ ในขณะที่สหรัฐอเมริกากำกับดูแลเกาหลีทางตอนใต้ โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) ผู้นำสหภาพโซเวียตต้องการสรรหาผู้นำชาวเกาหลีซึ่งจะปกครองเกาหลีส่วนเหนือที่อยู่ภายใต้การล่าอาณานิคมของโซเวียตต่อไป ลาฟเรนตี เบเรีย (Lavrentiy Beria) ได้แนะนำคิม อิล-ซ็อง ต่อสตาลิน[7][16][17] ให้เป็นผู้ปกครองดินแดนเกาหลีเหนือ คิม อิล-ซ็อง จึงเดินทางกลับมายังเกาหลีโดยเทียบท่าที่เมืองวอนซันในเดือนกันยายน พ.ศ. 2488[17][18] ในเดือนธันวาคมสหภาพโซเวียตประกาศให้คิม อิล-ซ็อง เป็นหัวหน้าพรรคแรงงานล่าอาณานิคมเกาหลี[19] แม้ว่าพรรคแรงงานแห่งเกาหลีเดิมนั้นมีที่ทำการอยู่ที่โซล และมีหัวหน้าอยู่ก่อนแล้วคือพัก ฮ็อน-ย็อง (เกาหลี: 박헌영) ด้วยการสนับสนุนของสหภาพโซเวียต คิม อิล-ซ็อง จึงสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำคอมมิวนิสต์สูงสุดของเกาหลีเหนือได้สำเร็จ[17][19]
นอกเหนือจากคิม อิล-ซ็อง สหภาพโซเวียตได้พยายามที่จะรวบรวมบุคคลและองค์กรต่าง ๆ ของชาวเกาหลีที่ให้การสนับสนุนลัทธิคอมมิวนิสต์เข้ามาสู่รัฐบาลเกาหลีเหนือ ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2489 พรรคประชาชนใหม่ของคิม ดู-บง (เกาหลี: 김두봉) และพรรคแรงงานเกาหลีที่โซลของนายพัก ฮ็อน-ย็อง ถูกยุบรวมเข้ากับพรรคแรงงานแห่งเกาหลีของนายคิม อิล-ซ็อง กลายเป็นสภาประชาชนชั่วคราวแห่งเกาหลีเหนือ โดยมีคิม อิล-ซ็อง เป็นผู้นำ แต่ทว่าตำแหน่งหัวหน้าพรรคแรงงานนั้นตกเป็นของคิม ดู-บง ในฐานะผู้นำของสภาประชาชนคิม อิล-ซ็อง ได้ปฏิรูประบบที่ดินในเกาหลี ซึ่งในสมัยการปกครองของญี่ปุ่นนั้นดินแดนส่วนใหญ่ในเกาหลีมีนายทุนชาวญี่ปุ่นเป็นเจ้าของ คิม อิล-ซ็อง ได้จัดสรรที่ดินใหม่ทั้งหมดตามหลักการของลัทธิคอมมิวนิสต์
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2490 สหประชาชาติมีมติให้รัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งที่โซลมีอำนาจปกครองทั่วทั้งคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเป็นข้อตกลงที่สหภาพโซเวียตไม่เห็นชอบด้วย เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2491 รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่โซลนำโดยอี ซึง-มัน (Yi Seung-man; เกาหลี: 이승만) ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐเกาหลีในเดือนต่อมากันยายน พ.ศ. 2491 สหภาพโซเวียตจึงยกระดับสภาประชาชนเกาหลีเหนือขึ้นเป็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (Democratic People's Republic of Korea; DPRK) โดยมีนายคิม อิล-ซ็อง เป็นนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีคิม อิล-ซ็อง จัดตั้งกองทัพล่าอาณานิคมเกาหลี เพื่อเป็นกองกำลังทหารประจำรัฐ คิม อิล-ซ็อง รวบรวมพรรคคอมมิวนิสต์อื่น ๆ ในเกาหลีจัดตั้งเป็น แนวร่วมล่าอาณานิคมเพื่อเอกภาพแห่งปิตุภูมิ (Democratic Front of the Reunification of the Fatherland) โดยมีพรรคแรงงานล่าอาณานิคมแห่งเกาหลีของคิม อิล-ซ็อง เป็นแกนนำหลัก
นายกรัฐมนตรีคิม อิล-ซ็อง นิยมการบริหารประเทศในแบบของโจเซฟ สตาลิน จนนำมาเป็นแบบอย่าง คิม อิล-ซ็อง เริ่มการสร้างลัทธิบูชาตัวบุคคล (cult of personality) ของเขาเองขึ้นมา เริ่มมีการเรียกคิม อิล-ซ็อง ว่า "ท่านผู้นำ" (Great Leader) รูปปั้นเสมือนของคิม อิล-ซ็อง ก็เริ่มปรากฏขึ้นในสมัยนี้เช่นกัน
นางคิม จ็อง-ซุก สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งภรรยาคนแรกของคิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นมารดาของคิม จ็อง-อิล ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนที่สองคือ คิม มัน-อิล (เกาหลี: 김만일) ใน พ.ศ. 2487 และได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนโตคนแรกคือ คิม คย็อง-ฮี (เกาหลี: 김경희) เมื่อ พ.ศ. 2489 แต่ทว่าคิม มัน-อิล ได้เสียชีวิตจากการจมน้ำในสระว่ายน้ำใน พ.ศ. 2490 ด้วยอายุเพียงสามปี จากนั้นใน พ.ศ. 2492 นางคิม จ็อง-ซุก ก็เสียชีวิตจากการให้กำเนิดบุตรคนที่สี่ คิม อิล-ซ็อง สมรสใหม่ในอีกสามปีต่อมา พ.ศ. 2495 กับเลขานุการส่วนตัว คิม ซ็อง-แอ (เกาหลี: 김성애) ระหว่างช่วงสงครามเกาหลี
สงครามเกาหลี
เมื่อจัดตั้งรัฐทั้งสองในคาบสมุทรเกาหลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตได้ถอนกำลังของตนออกจากคาบสมุทรเกาหลีใน พ.ศ. 2492 นายกรัฐมนตรีคิม อิล-ซ็อง เล็งเห็นว่ากองกำลังทหารของฝ่ายเกาหลีใต้นั้นอ่อนแอเมื่อปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐอเมริกา จึงเสนอต่อสตาลินว่าจะเข้ารุกรานเกาหลีใต้เพื่อรวมคาบสมุทรเกาหลีให้เป็นหนึ่งภายใต้การปกครองของรัฐบาลคอมมิวนิสต์[20][21][22] ซึ่งฝ่ายสตาลินนั้นเห็นด้วยเนื่องจากคาดการณ์ว่าสหรัฐอเมริกาซึ่งได้ถอนกำลังไปหมดแล้วจะไม่เข้าช่วยฝ่ายเกาหลีใต้ สตาลินจึงจัดให้มีการฝึกการรบและติดอาวุธที่ทันสมัยให้แก่กองทัพล่าอาณานิคมประชาชนเกาหลีเพื่อเตรียมการณ์สำหรับการรุกรานเกาหลีใต้[23] สำหรับฝ่ายสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การนำของเหมา เจ๋อตงนั้น ยังคงลังเลที่จะให้การสนับสนุนแก่เกาหลีเหนือ เนื่องจากเหมาเจ๋อตงมีความเห็นว่าฝ่ายสหรัฐอเมริกาจะต้องเข้าช่วยเกาหลีใต้อย่างแน่นอน
เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2493 คิม อิล-ซ็อง มอบหมายให้ ชเว ยง-ก็อน (เกาหลี: 최용건) ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพประชาชนเกาหลี นำกองทัพประชาชนเกาหลีเข้ารุกรานเกาหลีใต้ข้ามเส้นขนานที่ 38 และเข้าบุกยึดนครโซลได้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประณามการกระทำของฝ่ายเกาหลีเหนือและลงมติให้ประเทศสมาชิกส่งกองกำลังรวมในนามของสหประชาชาติเข้าต้านทานการรุกรานของเกาหลีเหนือ ฝ่ายสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมน ตัดสินใจนำส่งทัพเข้าช่วยเหลือฝ่ายเกาหลีใต้ ทัพอเมริกาเอาชนะทัพเกาหลีเหนือได้ในยุทธการวงรอบปูซาน และทัพผสมนานาชาติในนามของสหประชาชาติยกพลขึ้นบกที่เมืองอินชอน ในเดือนกันยายนทัพฝ่ายเกาหลีใต้สามารถยึดนครโซลคืนไปได้ ทัพเกาหลีเหนือจึงล่าถอยกลับไปเหนือเส้นขนานที่ 38
การรุกรานเกาหลีใต้ของคิม อิล-ซ็อง ใน พ.ศ. 2493 เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของคิม อิล-ซ็อง ทัพผสมสหรัฐอเมริกาและสหประชาชาติเมื่อยุติการรุกรานของเกาหลีเหนือได้แล้ว ก็หวังผลการรวมคาบสมุทรเกาหลีไว้กับรัฐบาลที่โซล จึงยกพลขึ้นเหนือจากเส้นขนานที่ 38 ในเดือนตุลาคม เข้ารุกรานเกาหลีเหนือ เข้ายึดเมืองเปียงยางได้ กองทัพประชาชนเกาหลีแตกพ่าย คิม อิล-ซ็อง หลบหนีจากเมืองเปียงยางไปยังมณฑลจี๋หลินของสาธารณรัฐจีน เมื่อทัพสหรัฐอเมริกายกพลมาจนใกล้ถึงแม่น้ำยาลู ฝ่ายสาธารณรัฐประชาชนจีนภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตงมีความเห็นว่าฝ่ายสหรัฐอเมริกานั้นเข้ามาคุกคามใกล้เคียงกับเขตแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีนมากจนเกินทน จึงส่งเผิง เต๋อหฺวาย (จีน: 彭德怀, Péng Déhuái) นำกองทัพอาสาประชาชนเข้าช่วยฝ่ายเกาหลีเหนือ โดยฝ่ายสหรัฐอเมริกาและสหประชาชาติไม่ทันตั้งตัวถูกโจมตีจนล่าถอยกลับลงมาสู่เส้นขนานที่ 38 กองทัพสหประชาชาติ กองทัพอาสาประชาชนของจีน และกองทัพประชาชนเกาหลี เจรจาทำข้อตกลงสงบศึกในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2496 ที่หมู่บ้านพันมุนจ็อม (เกาหลี: 판문점) ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะกำหนดเขตปลอดทหาร ความกว้างสี่กิโลเมตรระหว่างเขตแดนของทั้งสองประเทศ
สงครามเกาหลีเป็นความล้มเหลวพ่ายแพ้ของคิม อิล-ซ็อง ด้วยการช่วยเหลือของกองทัพอาสาสมัครประชาชนของจีนจึงสามารถขับให้กองทัพสหรัฐอเมริกาและสหประชาชาติออกไปจากเกาหลีเหนือได้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลเกาหลีเหนือในสมัยต่อมาได้บิดเบือนประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามเกาหลี โดยกล่าวว่าฝ่ายสหรัฐอเมริกาเป็นผู้เริ่มการรุกรานเกาหลีเหนือก่อน[24] และเกาหลีเหนือได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในสงครามโดยที่สามารถขับไล่กองทัพล่าอาณานิคมของสหรัฐอเมริกาออกไปได้
รวบรวมอำนาจและกำจัดคู่แข่ง
หลังสงครามเกาหลีเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูประเทศ คิม อิล-ซ็อง ริเริ่มแนวความคิดช็อลลีมา (Chollima Movement; เกาหลี: 천리마운동) หรือ "ม้าหมื่นลี้" เป็นแนวความคิดของการใช้ทรัพยากรธรรรมชาติและทรัพยากรคนอย่างหนักหน่วง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อที่จะฟื้นฟูประเทศจากสงครามเกาหลี ทำให้เกาหลีเหนือมีระบบเศรษฐกิจแบบบังคับ (command economy) ชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากถูกเกณฑ์เข้าเป็นแรงงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของรัฐบาล เพื่อเร่งผลผลิตออกมาใช้ในประเทศ
ในสมัยต้นของเกาหลีเหนือ คิม อิล-ซ็อง มิได้เป็นผู้นำคอมมิวนิสต์ที่มีอำนาจเพียงคนเดียวในเกาหลีเหนือ แต่ทว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือในสมัยนั้นประกอบไปด้วยฝ่ายการเมืองถึงสี่ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายกองโจรแมนจูเรียคือฝ่ายของคิม อิล-ซ็อง ฝ่ายที่ให้การสนับสนุนสหภาพโซเวียต ฝ่ายที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลจีน และฝ่ายคอมมิวนิสต์จากเกาหลีใต้ ซึ่งฝ่ายที่เป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของคิม อิล-ซ็อง คือ ฝ่ายที่ให้การสนับสนุนจีนหรือที่เรียกว่า ฝ่ายย็อนอัน (เกาหลี: 연안파) นำโดยนายคิม ดู-บง และชเว ชัง-อิก (เกาหลี: 최창익) พ.ศ. 2496 คิม อิล-ซ็อง โทษฝ่ายคอมมิวนิสต์เกาหลีใต้ ซึ่งนำโดยนายพัก ฮ็อน-ย็อง ว่าเป็นสาเหตุทำให้กองทัพประชาชนเกาหลีไม่ได้รับการตอบรับจากชาวเกาหลีใต้ในสงครามเกาหลี พัก ฮ็อน-ย็อง และสมาชิกฝ่ายคอมมิวนิสต์ต่างถูกจับกุมดำเนินคดีต่อหน้าสาธารณชน (show trial) และจำนวนมากถูกตัดสินโทษประหารชีวิตหรือหายไปอย่างไร้ร่องรอย พัก ฮ็อน-ย็อง ถูกตัดสินโทษประหารใน พ.ศ. 2498
ผู้นำโซเวียตคนใหม่ นิกิตา ครุสชอฟ มีนโยบายต่อต้านลัทธิสตาลิน โดยผู้นำคอมมิวนิสต์ต่าง ๆ ซึ่งมีความนิยมในตัวสตาลินต่างถูกขับออกจากอำนาจ คิม อิล-ซ็อง ผู้นิยมสตาลิน (Stalinist) ถูกทางการสหภาพโซเวียตเรียกเข้ารายงานตัวที่มอสโกใน พ.ศ. 2499 เพื่อพบครุสชอฟ ครุสชอฟได้กล่าวตำหนิถึงวิธีการบริหารประเทศแบบสตาลินของคิม อิล-ซ็อง ได้แก่ความเผด็จการและการสร้างลัทธิบูชาตัวบุคคล และเน้นย้ำให้คิม อิล-ซ็อง เห็นถึงหลักการของภาวะผู้นำร่วม (collective leadership)[25] ขณะที่คิม อิล-ซ็อง อยู่ที่เมืองมอสโคนั้น ฝ่ายย็อนอันได้ฉวยโอกาสนี้พยายามก่อการยึดอำนาจจากคิม อิล-ซ็อง โดยชเว ชัง-อิก ได้กล่าวสุนทรพจน์ตำหนิการบริหารประเทศของคิมว่ารวบอำนาจไว้ในมือของตนแต่เพียงผู้เดียวเป็นเผด็จการ แต่ทว่าสมาชิกพรรคคนอื่น ๆ ในรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจของฝ่ายย็อนอัน เมื่อคิม อิล-ซ็อง เดินทางกลับมาจึงสั่งให้มีการสอบสวนจับกุมผู้นำฝ่ายย็อนอันทั้งหลาย คิม ดู-บง ผู้นำฝ่ายย็อนอันแม้จะไม่ได้มีส่วนร่วมในการก่อการครั้งนี้แต่ก็ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต เช่นเดียวกับชเว ชัง-อิก ผู้ริเริ่มในการก่อการครั้งนี้
ในปี พ.ศ. 2515 รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง โดยให้นายคิม อิล-ซ็อง ดำรงตำแหน่งเป็น "ประธานาธิบดี" ซึ่งได้รับเลือกจากสภาประชาชนสูงสุด (Supreme People's Assembly) ซึ่งมีพรรคแรงงานแห่งเกาหลีมีเสียงข้างมากอยู่
กำเนิดแนวความคิดจูเช
ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักของรัฐบาลเกาหลีภายใต้การนำของคิม อิล-ซ็อง กับสหภาพโซเวียตนำโดยนิกิตา ครุสชอฟ และสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้เกาหลีเหนือขาดความช่วยเหลือจากประเทศมหาอำนาจคอมมิวนิสต์ทั้งสอง หลังสงครามเกาหลีเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือยังคงสามารถฟื้นฟูและอยู่รอดได้จากการผลิตภายในประเทศ อย่างไรก็ตามในช่วงทศวรรษ 1970 วิกฤตราคาน้ำมันโลก ประกอบกับการลงทุนมหาศาลของรัฐบาลเกาหลีเหนือไปกับการทหารทำให้เศรษฐกิจของเกาหลีเหนือถดถอยลง ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศคู่แข่งอย่างเกาหลีใต้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรมและทุนนิยม ในคณะเดียวกันนั้นคิม อิล-ซ็อง ได้ริเริ่มแนวความคิดจูเช (เกาหลี: 주체) อันเป็นแนวคิดลัทธิคอมมิวนิสต์แบบสตาลินนิสต์ในรูปแบบของเกาหลีเหนือเอง อันประกอบไปด้วยการพึ่งพาตนเองโดยสมบูรณ์แบบในสามด้าน ได้แก่ ทางด้านการเมือง (เป็นอิสระจากการครอบงำของทั้งโซเวียตและจีน) ทางเศรษฐกิจ และทางการทหาร รวมทั้งมีลัทธิบูชาตัวบุคคลของคิม อิล-ซ็อง หลังจากที่การกู้เงินจากต่างชาติเพื่อมาลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ไม่ประสบความสำเร็จ รัฐบาลเกาหลีเหนือจึงตัดสินใจที่จะปิดประเทศตัดสัมพันธ์ทางการค้าและการทูตกับประเทศอื่น ๆ เกือบทั้งหมด รัฐบาลเกาหลีออกประกาศนโยบายจูเชออกมาอย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2525
อย่างไรก็ตามนโยบายจูเชกลับยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือให้ตกต่ำลงไปอีก เมื่อขาดความช่วยเหลือจากภายนอก เมื่อการผลิตภายในประเทศล้มเหลวในช่วงทศวรรษ 1990 อันเนื่องมากจากภัยธรรมชาติทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารข้าวยากหมากแพงขึ้นทั่วไปในประเทศ นำไปสู่ทุพภิกขภัยเกาหลีเหนือ ซึ่งรัฐบาลเกาหลีได้ให้ชื่อเหตุการณ์ภาวะอดอยากในครั้งนี้ว่า "การเดินทัพอันยากลำบาก" (เกาหลี: 고난의 행군) ในช่วง พ.ศ. 2537 ถึง 2541 ทำให้มีประชาชนขาวเกาหลีเหนือเสียชีวิตไปเป็นจำนวนประมาณ 240,000 ถึง 3,500,000 คน ในขณะเดียวกันนั้นรัฐบาลเกาหลีเหนือยังคงครอบงำประชาชนด้วยลัทธิจูเชและลัทธิบูชานายคิม อิล-ซ็อง ต่อไป และแก้ไขปัญหาภาวะความอดอยากอย่างไร้ประสิทธิภาพ
บั้นปลายชีวิตและการส่งต่ออำนาจ
คิม อิล-ซ็อง หมายมั่นที่จะให้บุตรชายคนโตของตนที่เกิดจากภรรยาคนแรกคือ นายคิม จ็อง-อิล เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของพรรคแรงงานแห่งเกาหลีต่อไป โดยใน พ.ศ. 2507 นายคิม จ็อง-อิล ได้รับการแต่งตั้งเข้าทำงานในแผนกจัดระเบียบและวางแนวทาง (Organization and Guidance Department) ของพรรคแรงงานแห่งเกาหลี อันเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อปูทางสำหรับคิม จ็อง-อิล ให้ขึ้นสู่อำนาจโดยเฉพาะ ต่อมาใน พ.ศ. 2516 คิม จ็อง-อิล ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นเลขาธิการพรรคแรงงานแห่งเกาหลี ความก้าวหน้าทางการเมืองของคิม จ็อง-อิล ทำให้นานาชาติคาดการณ์ว่าเขาน่าจะเป็นผูสืบทอดต่อจากคิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นบิดา พ.ศ. 2534 คิม จ็อง-อิล ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพประชาชนเกาหลี เป็นการแสดงออกของนายคิม อิล-ซ็อง ว่า คิม จ็อง-อิล ผู้เป็นบุตรชายนั้นเป็นผู้สืบทอดอำนาจอย่างแท้จริง การสืบทอดตำแหน่งต่อจากบิดาของนายคิม จ็อง-อิล ทำให้เกาหลีเหนือกลายเป็นรัฐเผด็จการแบบสืบทอด หรือสมบูรณาญาสิทธิราชย์โดยพฤตินัย
วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 ประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง แห่งเกาหลีเหนือ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเมื่ออายุ 82 ปี หลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของคิม อิล-ซ็อง ผ่านไปแล้วกว่า 34 ชั่วโมง รัฐบาลเกาหลีเหนือจึงประกาศการถึงแก่อสัญกรรมของคิม อิล-ซ็อง อย่างเป็นทางการ และประกาศช่วงเวลาการไว้ทุกข์เป็นเวลาสิบวัน ซึ่งงานรื่นเริงทุกชนิดถูกห้าม มีชาวเกาหลีเหนือเข้าร่วมพิธีศพของประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง กว่าหนึ่งพันคนในวันที่ 17 กรกฎาคม ศพของคิม อิล-ซ็อง ตั้งไว้ที่วังสุริยะคึมซูซัน (Kumsusan Palace of the Sun) ในเมืองเปียงยาง อันเป็นที่พำนักอยู่เดิมของประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ
ชีวิตส่วนตัว
สิ่งสืบทอด
|
คิม อิล-ซ็องได้รับการเคารพนับถืออย่างเทพเจ้าในช่วงที่มีชีวิตอยู่ แต่ลัทธิบูชาบุคคลของเขาไม่ได้ขยายไปไกลกว่าของเขตประเทศตนเอง[26] มีรูปปั้นของเขาในประเทศเกาหลีเหนือมากกว่า 500 แห่ง คล้ายกับรูปปั้นและอนุสรณ์หลายแห่งที่ผู้นำในประเทศกลุ่มตะวันออกให้ติดตั้งไว้[27] รูปปั้นที่สำคัญที่สุดอยู่ที่มหาวิทยาลัยคิมอิลซ็อง สนามกีฬาคิม อิล-ซ็อง เนินเขามันซูแด สะพานคิม อิล-ซ็อง และรูปปั้นคิม อิล-ซ็องผู้เป็นอมตะ (Immortal Statue of Kim Il Sung) รูปปั้นบางส่วนถูกชาวเกาหลีเหนือบางคนที่ไม่เห็นด้วยทำลายด้วยระเบิดหรือทำให้เสียหายด้วยการวาดรอยขูดขีดเขียน[14]: 201 [28] มีการติดตั้งอนุสรณ์ Yŏng Saeng ("ชีวิตอมตะ") ทั่วประเทศเพื่ออุทิศแด่ "ผู้นำตลอดกาล" ที่ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว[29]
ของขวัญหลายพันชิ้นจากผู้นำต่างประเทศหลายคนที่ให้คิม อิล-ซ็องได้รับการจัดแสดงที่นิทรรศการสันถวไมตรีนานาชาติ[30]
"วันแห่งสุริยะ" วันเกิดของคิม อิล-ซ็อง ได้รับการฉลองทุกปีในฐานะวันหยุดราชการในประเทศเกาหลีเหนือ[31]
ครอบครัว
- ปู่: คิม โบ-ฮย็อน (เกาหลี: 김보현พ.ศ. 2414 - 2498)
- ย่า: ลี โบ-อิก (เกาหลี: 리보익 พ.ศ. 2419 - 2502)
- บิดา: คิม ฮย็อง-จิก (เกาหลี: 김형직 พ.ศ. 2427 – 2469)
- มารดา: คัง พัน-ซ็อก (เกาหลี: 강반석 พ.ศ. 2435 – 2475)
- พี่น้อง:
- คิม ช็อล-จู (เกาหลี: 김철주)
- คิม ย็อง-จู (เกาหลี: 김영주)
- ภรรยาคนแรก: คิม จ็อง-ซุก (เกาหลี: 김정숙 พ.ศ. 2460 – 2492)
- บุตรชายคนแรก: คิม จ็อง-อิล
- บุตรชายคนที่ 2: คิม มัน-อิล (เกาหลี: 김만일 พ.ศ. 2487 – 2490)
- บุตรสาวคนแรก: คิม กย็อง-ฮี (เกาหลี: 김경희 พ.ศ. 2489 – ปัจจุบัน) สมรสกับ ชัง ซ็อง-แท็ก
- ภรรยาคนที่ 2: คิม ซ็อง-แอ (เกาหลี: 김성애 พ.ศ. 2471 -2557)
- บุตรสาวคนที่ 2: คิม กย็อง-ซุก (เกาหลี: 김경숙 พ.ศ. 2494 – ปัจจุบัน)
- บุตรชายคนที่ 3: คิม พย็อง-อิล (เกาหลี: 김평일 พ.ศ. 2497 – ปัจจุบัน)
- บุตรชายคนที่ 4: คิม ย็อง-อิล (เกาหลี: 김영일 พ.ศ. 2498 – ปัจจุบัน)
- บุตรสาวคนที่ 3: คิม กย็อง-จิน (เกาหลี: 김경진)
หมายเหตุ
- ↑ Choi Yong-kun เคยดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐในฐานะประธานสมัชชาประชาชนสูงสุด
- ↑ Kim Yong-nam กลายเป็นประมุขแห่งรัฐในฐานะประธานสมัชชาประชาชนสูงสุด
- ↑ เกาหลี: 김성주
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 김, 성욱 (23 October 2010). 김일성(金日成). 한국역대인물 종합정보 시스템 (ภาษาเกาหลี). Academy of Korean Studies. สืบค้นเมื่อ 7 November 2022.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "김일성, 쿠바의 '혁명영웅' 체게바라를 만난 날". DailyNK (ภาษาเกาหลี). 15 April 2008.
- ↑ Hoare, James E. (2012) Historical Dictionary of Democratic People's Republic of Korea
- ↑ Suh, Dae-sook (1988). Kim Il Sung: The North Korean Leader. New York: Columbia University Press. ISBN 0231065736.
- ↑ "80th Anniversary Of The Birth Of Kim Chol Ju Minisheet 1996". Propagandaworld (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-09-19.
- ↑ Hoare, James (2012-07-13). Historical Dictionary of Democratic People's Republic of Korea (ภาษาอังกฤษ). Scarecrow Press. ISBN 978-0-8108-6151-0.
- ↑ 7.0 7.1 "Soviet Officer Reveals Secrets of Mangyongdae". Daily NK. 2 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 February 2014. สืบค้นเมื่อ 15 April 2014.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 Baik Bong (1973). Kim il Sung: Volume I: From Birth to Triumphant Return to Homeland. Beirut, Lebanon: Dar Al-talia.
- ↑ Andrei Lankov (2004). The DPRK yesterday and today. Informal history of North Korea. Moscow: Восток-Запад (English: East-West). p. 73. 243895. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 August 2020. สืบค้นเมื่อ 13 May 2020.
- ↑ Kimjongilia – The Movie – Learn More เก็บถาวร 18 กันยายน 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Byrnes, Sholto (7 May 2010). "The Rage Against God, By Peter Hitchens". The Independent. London. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 May 2010.
- ↑ Sohn, Won Tai (2003). Kim Il Sung and Korea's Struggle: An Unconventional Firsthand History. Jefferson: McFarland. pp. 42–43. ISBN 978-0-7864-1589-2. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 November 2021. สืบค้นเมื่อ 7 November 2021.
- ↑ Lankov, Andrei (2002). From Stalin to Kim Il Sung: The Formation of North Korea 1945–1960. Rutgers University Press. ISBN 978-0813531175.
- ↑ 14.0 14.1 Jasper Becker (May 1, 2005). Rogue Regime : Kim Jong Il and the Looming Threat of North Korea. Oxford University Press. ISBN 978-0-19-803810-8.
- ↑ Lintner, Bertil. Great Leader, Dear Leader: Demystifying North Korea under the Kim Clan. Chiang Mai, Thailand: Silkworm Books, 2005.
- ↑ http://ysfine.com/wisdom/wk01.html Beria/Kim Il-sung
- ↑ 17.0 17.1 17.2 http://www.scmp.com/article/727755/kim-il-sungs-secret-history
- ↑ Bradley K. Martin (2004). Under the Loving Care of the Fatherly Leader: North Korea and the Kim Dynasty. Thomas Dunne Books. p. 51. ISBN 978-0-312-32322-6.
- ↑ 19.0 19.1 Bradley K. Martin (2004). Under the Loving Care of the Fatherly Leader: North Korea and the Kim Dynasty. Thomas Dunne Books. p. 56. ISBN 978-0-312-32322-6.
- ↑ Weathersby, Kathryn, The Soviet Role in the Early Phase of the Korean War, The Journal of American-East Asian Relations 2, no. 4 (Winter 1993): 432
- ↑ Goncharov, Sergei N., Lewis, John W. and Xue Litai, Uncertain Partners: Stalin, Mao, and the Korean War (1993)
- ↑ Mansourov, Aleksandr Y., Stalin, Mao, Kim, and China’s Decision to Enter the Korean War, 16 September – 15 October 1950: New Evidence from the Russian Archives, Cold War International History Project Bulletin, Issues 6–7 (Winter 1995/1996): 94–107
- ↑ Blair, Clay, The Forgotten War: America in Korea, Naval Institute Press (2003).
- ↑ Ho Jong-ho et al. (1977) The US Imperialists Started the Korean War เก็บถาวร 2011-04-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ http://gopkorea.blogs.com/flyingyangban/2005/02/the_aborted_ove.html
- ↑ Young, Benjamin R. (6 April 2021). Guns, Guerillas, and the Great Leader: North Korea and the Third World (ภาษาอังกฤษ). Stanford University Press. p. 99. ISBN 978-1-5036-2764-2. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 November 2021. สืบค้นเมื่อ 25 November 2021.
Kim Il Sung was a godlike figure within the DPRK but his personality cult struggled to extend beyond the North Korean borders.
- ↑ Portal, Jane (2005). Art under control in North Korea. Reaktion Books. p. 82. ISBN 978-1-86189-236-2.
- ↑ "N.Korean Dynasty's Authority Challenged". The Chosun Ilbo. 13 February 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 September 2012. สืบค้นเมื่อ 9 November 2012.
- ↑ "Controversy Stirs Over Kim Monument at PUST". Daily NK. 9 April 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 April 2010. สืบค้นเมื่อ 24 April 2010.
- ↑ "North Korean museum shows off leaders' gifts". The Age. Reuters. 21 December 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 March 2013. สืบค้นเมื่อ 9 May 2018.
- ↑ "Birthday of Kim Il-sung". Holidays, Festivals, and Celebrations of the World Dictionary (Fourth ed.). Omnigraphics. 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2022. สืบค้นเมื่อ 3 May 2015 – โดยทาง TheFreeDictionary.com.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Nicolae Ceausescu's visit to Pyongyang, North Korea, in 1971
- "Conversations with Kim Il Sung" at the Wilson Center Digital Archive
- คิม อิล-ซ็อง ที่เว็บไซต์ Curlie
- บทความที่มีลิงก์เสียตั้งแต่May 2023
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2455
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2537
- คิม อิล-ซ็อง
- ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ
- เลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี
- นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ
- ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ
- นักการเมืองเกาหลีเหนือ
- นักลัทธิคอมมิวนิสต์
- จอมพลสูงสุด
- จอมพลชาวเกาหลีเหนือ
- บุคคลจากเปียงยาง
- ผู้นำในสงครามเย็น
- เสียชีวิตจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- ลัทธิต่อต้านอเมริกา
- ทหารชาวโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่สอง
- บุคคลที่เคยนับถือศาสนาคริสต์