ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศแอฟริกาใต้"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ย้อนการก่อกวน 2 ครั้งของ 1.47.16.181 (พูดคุย) ไปยังรุ่นโดย Siam2019 ด้วยสจห.
ป้ายระบุ: ทำกลับ
ssaswefsdfdsde
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ความหมายอื่น||ภูมิภาคทางตอนใต้ของ[[ทวีปแอฟริกา]]|แอฟริกาใต้ (ภูมิภาค)|แอฟริกาใต้}}
{{Infobox country
{{Infobox country
| conventional_long_name = สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
| conventional_long_name = สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
บรรทัด 174: บรรทัด 173:
}}
}}


'''แอฟริกาใต้'''<ref name="royin">{{cite journal|title=ประกาศสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เรื่อง กำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/205/T_0028.PDF|journal=ราชกิจจานุเบกษา|language=|volume=139|issue=พิเศษ 205 ง}} 1 กันยายน 2565.</ref> หรือ '''เซาท์แอฟริกา'''<ref name="royin"/> ({{lang-en|South Africa}}) หรือชื่อทางการคือ '''สาธารณรัฐแอฟริกาใต้''' หรือ '''สาธารณรัฐเซาท์แอฟริกา''' ({{lang-en|Republic of South Africa: RSA}}) เป็นประเทศที่อยู่[[แอฟริกาใต้ (ภูมิภาค)|ทางตอนใต้สุด]]ของ[[ทวีปแอฟริกา]] ล้อมรอบด้วยแนวชายฝั่งยาว 2,798 กิโลเมตร (1,739 ไมล์) ทอดยาวไปตาม[[มหาสมุทรแอตแลนติก]]ใต้และ[[มหาสมุทรอินเดีย]] อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับ[[ประเทศนามิเบีย]], [[ประเทศบอตสวานา|บอตสวานา]] และ [[ประเทศซิมบับเว|ซิมบับเว]] ทางทิศตะวันออกติดกับ[[ประเทศโมซัมบิก|โมซัมบิก]] และ [[ประเทศเอสวาตินี|เอสวาตินี]] และยังมี[[ประเทศเลโซโท]]ตั้งอยู่ภายในประเทศในฐานะ[[ดินแดนแทรกและดินแดนส่วนแยก]] แอฟริกาใต้ถือเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้มากที่สุดบนแผ่นดินใหญ่ของ[[โลกเก่า]] และเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใต้[[เส้นศูนย์สูตร]]ที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันสองรองจาก[[ประเทศแทนซาเนีย|แทนซาเนีย]] แอฟริกาใต้เป็นแหล่งรวม[[ความหลากหลายทางชีวภาพ]]มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมี[[ชีวนิเวศ]] [[พืช]] และ[[สัตว์ป่า]]ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว


ด้วยจำนวนประชากรเกือบ 62 ล้านคน ทำให้เป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แผ่นดินของประเทศครอบคลุมพื้นที่ 1,221,037 ตารางกิโลเมตร (471,445 ตารางไมล์) ประเทศแอฟริกาใต้ได้แบ่งเมืองหลวงออกเป็นสามเมืองได้แก่ [[พริทอเรีย]]ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางในการบริหาร, [[เคปทาวน์]]ซึ่งเป็นศูนย์กลางทาง[[สภานิติบัญญัติ|นิติบัญญัติ]]และที่ตั้งของรัฐสภา และ[[บลูมฟอนเทน]] ในขณะที่เมืองที่ใหญ่ที่สุดคือ[[โจฮันเนสเบิร์ก]]ซึ่งเป็นที่ตั้งของ[[ศาลสูงสุด]] กว่า 80% ของประชากรเป็นชาวแอฟริกาผิวดำ<ref>{{Cite web|last=Mitchley|first=Alex|title=SA's population swells to 62 million - 2022 census at a glance|url=https://www.news24.com/news24/southafrica/news/sas-population-swells-to-62-million-2022-census-at-a-glance-20231010|website=News24|language=en-US}}</ref> ประชากรที่เหลือประกอบด้วยชุมชนชาวยุโรปที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา (ชาวแอฟริกาผิวขาว), ชาวเอเชีย (ชาวแอฟริกาใต้จากอินเดียและจีน) และประชากรที่สืบจากบรรพบุรุษหลากหลายเชื้อชาติ แอฟริกาใต้เป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ซึ่งครอบคลุมวัฒนธรรม ภาษา และศาสนาที่หลากหลาย สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นจากการที่[[รัฐธรรมนูญ]]ของประเทศยอมรับภาษามากถึง 12 ภาษาในฐานะ[[ภาษาราชการ]] ซึ่งมากเป็นอันดับสี่ของโลก<ref>{{Cite web|date=2008-07-19|title=South Africa: fast facts - SouthAfrica.info|url=http://www.southafrica.info/about/facts.htm|website=web.archive.org|access-date=2023-12-11|archive-date=2008-07-19|archive-url=https://web.archive.org/web/20080719213531/http://www.southafrica.info/about/facts.htm|url-status=bot: unknown}}</ref> จากรายงานใน ค.ศ. 2011 ภาษาที่ถูกใช้มากที่สุดคือ ภาษาซูลู (22.7%) และ ภาษาโคซา (16.0%)<ref>{{Cite web|url=https://www.statssa.gov.za/census/census_2011/census_products/Census_2011_Census_in_brief.pdf|website=www.statssa.gov.za}}</ref> ตามมาด้วย[[ภาษาอาฟรีกานส์]]ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก[[ภาษาดัตช์|ภาษาดัตซ์]] และ[[ภาษาอังกฤษ]]ซึ่งเป็นผลมาจาก[[ลัทธิอาณานิคมในทวีปแอฟริกา|ลัทธิอาณานิคม]] โดยภาษาอังกฤษมีบทบาทสำคัญในการค้าและสถานที่สาธารณะ

มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปเป็นเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษ อย่างไรก็ตาม พลเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวจนถึง ค.ศ. 1994 นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 การเรียกร้องสิทธิทางสังคมของประชากรผิวสีเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา [[พรรคการเมืองแห่งชาติ]]มีนโยบายแบ่งแยกเชื้อชาติอย่างชัดเจนในทศวรรษ 1940 การเรียกร้องสิทธิและนโยบายโดย[[พรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกา]] รวมถึงนักเคลื่อนไหวต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวทั้งในและนอกประเทศ เป็นผลให้มีการยกเลิกกฎหมายการเลือกปฏิบัติในทศวรรษ 1980 นับตั้งแต่ ค.ศ. 1994 มีการยอมรับกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ให้เป็นตัวแทนทางการเมืองใน[[ประชาธิปไตยเสรีนิยม|ระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยม]]มากขึ้น และประเทศได้กลายเป็น[[สาธารณรัฐระบบรัฐสภา]]เต็มรูปแบบ และแบ่ง[[จังหวัดของประเทศแอฟริกาใต้|จังหวัดออกเป็นเก้าจังหวัด]] แอฟริกาใต้มักถูกเรียกว่า ''"ประเทศสีรุ้ง"'' เพื่ออธิบายความหลากหลายทางวัฒนธรรมในประเทศ โดยเฉพาะภายหลังจากการแบ่งแยกสีผิวและเชื้อชาติ<ref>{{Cite news|date=2008-07-18|title=Rainbow nation - dream or reality?|language=en-GB|url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/africa/7512700.stm|access-date=2023-12-11}}</ref> จากการรายงานโดย[[ดัชนีประชาธิปไตย]] แอฟริกาใต้ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 51 ของโลก และอันดับ 3 ในทวีปแอฟริกาในแง่คุณภาพของระบบประชาธิปไตยในประเทศ และความเท่าเทียมกันทางสังคม

แอฟริกาใต้เป็น[[ประเทศอำนาจปานกลาง]]ของโลก และถือเป็น[[ประเทศอำนาจนำภูมิภาค]]โดยเป็นสมาชิกของ[[เครือจักรภพแห่งประชาชาติ]]และ[[กลุ่ม 20]]<ref>{{Cite book|last=Lynch|first=David A.|url=https://books.google.co.th/books?id=-MH-GEL425AC&pg=PA51&redir_esc=y|title=Trade and Globalization: An Introduction to Regional Trade Agreements|date=2010|publisher=Rowman & Littlefield|isbn=978-0-7425-6688-0|language=en}}</ref> แอฟริกาใต้เป็น[[ประเทศกำลังพัฒนา]] อยู่ในอันดับที่ 109 ตาม[[ดัชนีการพัฒนามนุษย์]] และอันดับ 7 ในทวีป และยังเป็นประเทศเดียวในทวีปแอฟริกาที่ยอมรับกฎหมาย[[การสมรสเพศเดียวกัน]]<ref>{{Cite news|last=Wines|first=Michael|date=2005-12-02|title=Same-Sex Unions to Become Legal in South Africa|language=en-US|work=The New York Times|url=https://www.nytimes.com/2005/12/02/world/africa/samesex-unions-to-become-legal-in-south-africa.html|access-date=2023-12-11|issn=0362-4331}}</ref> แอฟริกาใต้ได้รับการจัดอันดับโดย[[ธนาคารโลก]]ให้เป็น[[ประเทศอุตสาหกรรมใหม่]] มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามในทวีปหากวัดตามอัตรา[[ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ]] (จีดีพี) และมีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากที่สุดในทวีป รวมทั้งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 39 ของโลก<ref>{{Cite web|title=World Bank Open Data|url=https://data.worldbank.org/|website=World Bank Open Data}}</ref><ref>{{Cite book|last=Waugh|first=David|url=https://books.google.co.th/books?id=7GH0KZZthGoC&redir_esc=y|title=Geography: An Integrated Approach|date=2000|publisher=Nelson Thornes|isbn=978-0-17-444706-1|language=en}}</ref> รายได้หลักมาจากอุตสาหกรรมแร่ธาตุ และการท่องเที่ยว แอฟริกาใต้มี[[แหล่งมรดกโลก]]โดย[[ยูเนสโก]]มากที่สุดในทวีป ภายหลังยุคแห่ง[[การถือผิว]] การพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตประชากรดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด<ref>{{Cite book|url=https://press.princeton.edu/books/hardcover/9780691203003/until-we-have-won-our-liberty|title=Until We Have Won Our Liberty|date=2022-06-28|isbn=978-0-691-20300-3|language=en}}</ref> อย่างไรก็ตาม [[อาชญากรรม]]และความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมยังเป็นปัญหาสำคัญโดยมีอัตรา[[การว่างงาน]]สูงถึง 40% ใน ค.ศ. 2021<ref>{{Cite web|title=World Bank Open Data|url=https://data.worldbank.org/|website=World Bank Open Data}}</ref> ในขณะที่ประชากรกว่า 60% ยังมีรายได้ต่ำกว่า[[เส้นแบ่งความยากจน]] และกว่าหนึ่งในสี่มีรายได้ต่ำกว่า 2.15 ดอลลาร์ต่อวัน<ref>{{Cite web|title=World Bank Open Data|url=https://data.worldbank.org/|website=World Bank Open Data}}</ref><ref>{{Cite web|title=World Bank Open Data|url=https://data.worldbank.org/|website=World Bank Open Data}}</ref>

== นิรุกติศาสตร์ ==
ชื่อ "แอฟริกาใต้" มาจากที่ตั้งของประเทศที่อยู่ทางตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกา เมื่อมีการก่อตั้งนั้น ประเทศแอฟริกาใต้จึงได้รับการตั้งชื่อว่า [[สหภาพแอฟริกาใต้]] ({{Lang|en|Union of South Africa|italic=no}}) ในภาษาอังกฤษ และ {{Lang|nl|Unie van Zuid-Afrika}} ใน[[ภาษาดัตช์]] ซึ่งสะท้อนถึงการรวมตัวกันของอาณานิคมบริติชทั้ง 4 แห่ง ที่ถูกแยกออกจากกันในก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ ค.ศ. 1961 ชื่ออย่างเป็นทางการของประเทศในรูปแบบยาวในภาษาอังกฤษคือ "สาธารณรัฐแอฟริกาใต้" ({{Lang|en|Republic of South Africa|italic=no}}) และ {{Lang|af|Republiek van Suid-Afrika}} ใน[[ภาษาอาฟรีกานส์]] ตั้งแต่ ค.ศ. 1994 เป็นต้นมา ประเทศแอฟริกาใต้จึงมีชื่ออย่างเป็นทางการใน[[Languages of South Africa|ภาษาราชการทั้งหมด 11 ภาษา]]

== ภูมิศาสตร์ ==
[[ไฟล์:South_Africa_sat.jpg|thumb|left|[[ภาพถ่ายดาวเทียม]]ของ[[ประเทศแอฟริกาใต้]]]]
ประเทศแอฟริกาใต้ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกา โดยมีแนวชายฝั่งที่ทอดยาวมากกว่า 2,500 กม. (1,553 ไมล์) และตามแนวมหาสมุทร 2 แห่ง (มหาสมุทรแอตแลนติกใต้และมหาสมุทรอินเดีย) ด้วยพื้นที่ 1,219,912 ตารางกิโลเมตร (471,011 ตารางไมล์) แอฟริกาใต้จึงเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 24 ของโลก<ref>{{Cite web|title=UNSD — Demographic and Social Statistics|url=https://unstats.un.org/unsd/demographic-social/products/dyb/dyb_2015.cshtml|website=unstats.un.org}}</ref> หากไม่รวมหมู่เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ประเทศนี้อยู่ระหว่างละติจูด 22° ถึง 35°S และลองจิจูด 16° ถึง 33°E พื้นที่ด้านในของแอฟริกาใต้ประกอบด้วยที่ราบสูงขนาดใหญ่โดยมีระดับความสูงระหว่าง 1,000 ม. (3,300 ฟุต) ถึง 2,100 ม. (6,900 ฟุต) ซึ่งสูงที่สุดในทิศตะวันออกและลาดลงไปทางทิศตะวันตกและทิศเหนือ และ ไปทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้เล็กน้อย<ref>McCarthy, T. & Rubidge, B. (2005). ''The story of earth and life''. p. 263, 267–268. Struik Publishers, Cape Town.</ref>

พื้นที่ทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบสูง (ที่ความสูงประมาณ 1,100–1,800 ม. เหนือระดับน้ำทะเล) และที่ราบที่อยู่ติดกันด้านล่าง (ที่ความสูงประมาณ 700–800 ม. เหนือระดับน้ำทะเล) เรียกว่า ''Great Karoo'' ซึ่งประกอบด้วยป่าไม้พุ่ม ส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือและที่สูงที่สุดของที่ราบสูงเรียกว่าไฮเวลด์ พื้นที่เป็นที่ตั้งของพื้นที่เพาะปลูกเชิงพาณิชย์ในสัดส่วนที่มากของประเทศ และมีพื้นที่ชานเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของไฮเวลด์ จากเส้นละติจูดประมาณ 25° 30' ใต้ ที่ราบสูงลาดลงสู่บุชเวลด์ ซึ่งท้ายที่สุดจะเป็นทางไปสู่ที่ราบลุ่ม[[แม่น้ำลิมโปโป]]หรือโลว์เวลด์<ref>Atlas of Southern Africa. (1984). p. 13. Reader's Digest Association, Cape Town</ref>
[[ไฟล์:South Africa - Drakensberg (16261357780).jpg|thumb|alt=Image depicting the Drakensberg|[[ดราเคนส์เบิร์ก]] ผาชันบริเวณตะวันออกของประเทศ ถูกสร้างเป็นชายแดนคั่นระหว่างแอฟริกาใต้กับ[[เลโซโท]]]]
[[ไฟล์:Namaqualand, Goegap 0035.jpg|thumb|ฤดูใบไม้ผลิในแอฟริกาใต้]]
บริเวณมุมตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ คาบสมุทรเคปก่อตัวใต้สุดของแนวชายฝั่งซึ่งติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกและไปสิ้นสุดที่ชายแดนของประเทศติดกับนามิเบียที่แม่น้ำออเรนจ์ คาบสมุทรเคปมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน และพื้นที่โดยรอบเป็นเพียงส่วนเดียวของแอฟริกาตอนใต้[[ทะเลทรายสะฮารา|ทะเลทรายซาฮารา]]ที่ได้รับฝนตกส่วนใหญ่ในฤดูหนาว แนวชายฝั่งทางตอนเหนือของคาบสมุทรเคปล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันตก และแนวของเทือกเขาเคปโฟลด์ที่ทอดยาวจากเหนือ-ใต้ไปทางทิศตะวันออก เทือกเขาเคปโฟลด์เคลื่อนตัวออกไปที่เส้นละติจูด 32° ใต้ หลังจากนั้นแนวชันใหญ่จะทอดตัวเข้าสู่ที่ราบชายฝั่ง

แอฟริกาใต้ยังครอบครองพื้นที่นอกชายฝั่งแห่งหนึ่ง ได้แก่ หมู่เกาะเล็ก ๆ ทางใต้ของทวีปแอนตาร์กติกของหมู่เกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด ซึ่งประกอบด้วยเกาะแมเรียน (290 ตารางกิโลเมตร หรือ 110 ตารางไมล์) และเกาะปรินซ์เอ็ดเวิร์ด (45 ตารางกิโลเมตร หรือ 17 ตารางไมล์)

=== สภาพภูมิอากาศ ===
แอฟริกาใต้มีสภาพอากาศโดยทั่วไปค่อนข้างเย็น เนื่องจากถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอินเดียทั้งสามด้าน และเนื่องจากตั้งอยู่ในซีกโลกใต้ที่มีอากาศเย็นกว่าปกติ นอกจากนี้ ระดับความสูงเฉลี่ยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปทางเหนือ (ไปทางเส้นศูนย์สูตร) ​​และไกลออกไป ภูมิประเทศและอิทธิพลมหาสมุทรที่หลากหลายนี้ส่งผลให้เกิดเขตภูมิอากาศที่หลากหลาย เขตภูมิอากาศมีตั้งแต่ทะเลทรายสุดขั้วทางตอนใต้ของนามิบทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดไปจนถึงภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนอันเขียวชอุ่มทางตะวันออกตามแนวชายแดนติดกับโมซัมบิกและมหาสมุทรอินเดีย ฤดูหนาวในแอฟริกาใต้เกิดขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม

พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้มีสภาพอากาศใกล้เคียงกับแถบ[[ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน]] โดยมีฤดูหนาวที่ชื้นและฤดูร้อนที่ร้อนจัด และแห้ง เป็นที่ตั้งของฟินบอสอันโด่งดังซึ่งประกอบด้วยป่าไม้พุ่ม บริเวณนี้ผลิตไวน์ได้มากในแอฟริกาใต้ และขึ้นชื่อในเรื่องลมที่พัดเป็นระยะ ๆ เกือบตลอดทั้งปี ลมที่รุนแรงทำให้พัดผ่าน[[แหลมกู๊ดโฮป]]ทำให้เกิดเรืออับปางจำนวนมาก ไกลออกไปทางตะวันออกบนชายฝั่งทางใต้ ปริมาณน้ำฝนจะกระจายอย่างสม่ำเสมอมากขึ้นตลอดทั้งปี ทำให้เกิดภูมิทัศน์สีเขียว ปริมาณน้ำฝนรายปีจะเพิ่มขึ้นทางตอนใต้ของโลว์เวลด์ โดยเฉพาะบริเวณใกล้ชายฝั่งซึ่งเป็นเขตกึ่งเขตร้อน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในแอฟริกาใต้ส่งผลให้อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นและเกิดความแปรปรวนของปริมาณน้ำฝน เหตุการณ์สภาพอากาศเฉียบพลันกำลังเป็นปัญหามากขึ้น<ref>{{Cite web|title=International Journal of Environmental Research and Public Health|url=https://www.mdpi.com/journal/ijerph|website=www.mdpi.com|language=en}}</ref> นี่เป็นข้อกังวลที่สำคัญสำหรับประชากรแอฟริกาใต้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลกระทบต่อสถานะโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดีของประเทศ เช่น การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็วส่งผลให้เกิดผลกระทบที่ชัดเจนต่อชุมชนและระดับสิ่งแวดล้อมในรูปแบบและด้านต่าง ๆ เริ่มจากคุณภาพอากาศ รูปแบบอุณหภูมิและสภาพอากาศ การเข้าถึงความมั่นคงทางอาหารและภาวะโรคติดต่อ

ตามแบบจำลองสภาพภูมิอากาศที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ซึ่งจัดทำโดยสถาบันความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติแห่งแอฟริกาใต้ บางส่วนของแอฟริกาใต้ตอนใต้จะมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นประมาณ 1 °C (1.8 °F) ตามแนวชายฝั่งเป็นมากกว่า 4 °C (7.2 °F) ในพื้นที่ห่างไกลจากตัวเมืองที่ร้อนอยู่แล้ว เช่น นอร์เทิร์นเคป ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนภายในปี 2050 คาดการณ์ว่าภูมิภาคเคปฟลอรัลจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความแห้งแล้ง และอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้สัตว์หายากหลายชนิดสูญพันธุ์<ref>{{Cite web|last=Prater|first=Tom|date=2018-10-15|title=The Carbon Brief Profile: South Africa|url=https://www.carbonbrief.org/the-carbon-brief-profile-south-africa/|website=Carbon Brief|language=en}}</ref>

=== ความหลากหลายทางชีวภาพ ===
[[ไฟล์:South African Giraffes, fighting.jpg|thumb|ยีราฟใน[[อุทยานแห่งชาติครูเกอร์]]]]
[[ไฟล์:African Leopard Sabi Sands Fir0002 Oct18.jpg|thumb|เสือดาวเพศเมียในเขตอนุรักษ์ซาบี]]
แอฟริกาใต้ลงนามใน[[อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ]]เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1995 และได้เข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาดังกล่าวเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนปีเดียวกัน ต่อมาได้จัดทำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติซึ่งได้รับจากอนุสัญญาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2006<ref>{{Cite web|last=Unit|first=Biosafety|title=List of Parties|url=https://www.cbd.int/information/parties.shtml|website=www.cbd.int|language=en}}</ref> ประเทศนี้อยู่ในอันดับที่หกจากสิบเจ็ดประเทศที่มีความหลากหลายขนาดใหญ่ของโลก การท่องเที่ยวเชิงนิเวศในแอฟริกาใต้แพร่หลายมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวิธีการที่เป็นไปได้ในการรักษาและปรับปรุงความหลากหลายทางชีวภาพ<ref>{{Cite web|date=2010-11-01|title=BIODIVERSIDADE|url=http://institutoaqualung.com.br/info_biodiversidade23.html|website=web.archive.org|access-date=2023-12-12|archive-date=2010-11-01|archive-url=https://web.archive.org/web/20101101120514/http://institutoaqualung.com.br/info_biodiversidade23.html|url-status=deviated|accessdate=2023-12-12|archivedate=2010-11-01|archiveurl=https://web.archive.org/web/20101101120514/http://institutoaqualung.com.br/info_biodiversidade23.html}}</ref>

[[สัตว์ป่า]]และ[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]]ที่พบได้ทั่วไป เช่น [[สิงโต]] [[เสือดาวแอฟริกา]] [[สกุลเสือชีตาห์|ชีตาห์]] [[แรดขาว]] [[วิลเดอบีสต์เคราขาว]] [[ไฮยีนา]] และยีราฟแอฟริกา สัตว์ป่าในประเทศมีความผูกพันและมีอิทธิพลสูงต่อวิถีชีวิตของคนในประเทศ แอฟริกาใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด

หากนับจนถึง ค.ศ. 1945 มีรายงานการพบ[[รา|เชื้อรา]]มากกว่า 4,900 สายพันธุ์ (รวมถึงสายพันธุ์ที่ก่อตัวเป็นไลเคน) ด้วยจำนวนสายพันธุ์พืชที่แตกต่างกันมากกว่า 22,000 ชนิด หรือประมาณ 9% ของพืชที่รู้จักทั้งหมดบนโลก<ref>Lambertini, Marco (15 May 2000). "The Flora / The Richest Botany in the World". ''A Anturalist's Guide to the Tropics'' (Revised edition (15 May 2000) ed.). University Of Chicago Press. p. 46. ISBN <bdi>978-0-226-46828-0</bdi>.</ref> แอฟริกาใต้จึงอุดมไปด้วยความหลากหลายของพืชมากกว่าประเทศอื่น [[ชีวนิเวศ]]ที่แพร่หลายมากที่สุดคือ[[ทุ่งหญ้า]] โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนไฮเวลด์ ซึ่งพืชปกคลุมไปด้วยหญ้าชนิดต่าง ๆ พุ่มไม้เตี้ย และอะคาเซียพืชพรรณกระจัดกระจายไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเนื่องจากมีฝนตกน้อย มีพืชอวบน้ำกักเก็บน้ำได้หลายชนิด เช่น [[ว่านหางจระเข้]]และยูโฟเบีย ในพื้นที่ ๆ ร้อนและแห้งมาก และจากข้อมูลของ[[องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล|องค์การกองทุนสัตว์ป่าสากล]] แอฟริกาใต้เป็นบ้านของสัตว์น้ำประมาณหนึ่งในสามของสายพันธุ์ทั้งหมด หญ้าและหนามสะวันนาค่อย ๆ กลายเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีการเจริญเติบโตหนาแน่นมากขึ้น

แอฟริกาใต้ได้สูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติจำนวนมากในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการมีจำนวนประชากรมากเกินไป รูปแบบการพัฒนา และการขยายผังเมือง และ[[การทำลายป่า]]ในช่วงศตวรรษที่ 19 ประเทศนี้มีคะแนนเฉลี่ยดัชนีความสมบูรณ์ของภูมิทัศน์ป่าไม้ประจำปี 2019 อยู่ที่ 4.94/10 ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 112 ของโลกจาก 172 ประเทศ<ref>https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7723057/</ref>

ในอดีต เคยมีการค้นพบป่าเขตอบอุ่นดั้งเดิมที่พบโดยผู้ตั้งถิ่นฐาน[[ทวีปยุโรป|ชาวยุโรป]]กลุ่มแรก ทว่าต่อมาได้ถูกทำลายเพื่อนำไปใช้ประโยชน์จนเหลือเพียงพื้นที่เล็ก ๆ เท่านั้น

== ประวัติศาสตร์ ==
{{บทความหลัก|ประวัติศาสตร์แอฟริกาใต้}}
=== อาณานิคมดัตช์ ===
{{บทความหลัก|Dutch Cape Colony{{!}}เคปโคโลนีของดัตช์}}
{{โครง-ส่วน}}
=== การรุกรานของบริเตน ===
{{บทความหลัก|Invasion of the Cape Colony{{!}}การรุกรานเคปโคโลนี|Cape Colony{{!}}นิคมแหลม|Great Trek{{!}}เกรตเทรช|เบชวานาแลนด์|Colony of Natal{{!}}นิคมนาทาล}}
{{โครง-ส่วน}}
=== สงครามบูร์ ===
{{บทความหลัก|First Boer War{{!}}สงครามบูร์ครั้งที่หนึ่ง|สงครามบูร์ครั้งที่สอง}}
[[File:Battle of Majuba Hill.jpg|thumb|ยุทธการที่เนินมาจูบา]]
[[สาธารณรัฐบูร์]]ได้รับชัยชนะจากการรุกรานของอังกฤษในช่วง[[สงครามบูร์ครั้งที่หนึ่ง]] (1880-1881) โดยใช้ยุทธวิธีการรบแบบกองโจรซึ่งเหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น กองทัพอังกฤษกลับมาพร้อมกับกองกำลังที่มากขึ้น ประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น และกลยุทธ์ใหม่ใน[[สงครามบูร์ครั้งที่สอง]] (1899-1902) และแม้ว่ากองทัพอังกฤษจะได้รับบาดเจ็บหนักเนื่องจากการสู้รบที่ดุเดือด แต่ในที่สุดก็ได้รับชัยชนะ ผู้หญิงและเด็กชาวบูร์มากกว่า 27,000 คนเสียชีวิตในค่ายกักกันของอังกฤษ<ref>{{cite news|title=5 of the worst atrocities carried out by the British Empire|url=https://www.independent.co.uk/news/uk/home-news/worst-atrocities-british-empire-amritsar-boer-war-concentration-camp-mau-mau-a6821756.html|work=The Independent|date=19 January 2016|access-date=22 September 2019|archive-date=27 September 2019|archive-url=https://web.archive.org/web/20190927142647/https://www.independent.co.uk/news/uk/home-news/worst-atrocities-british-empire-amritsar-boer-war-concentration-camp-mau-mau-a6821756.html|url-status=live }}</ref>

ประชากรในเมืองของแอฟริกาใต้เติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ภายหลังความเสียหายจากสงคราม เกษตรกรชาวบูร์ที่มีเชื้อสายดัตช์ได้หนีเข้าไปในเมืองต่างๆ จากดินแดนทรานส์วาลและเสรีรัฐออเรนจ์ และกลายเป็นชนชั้นยากจนในแอฟริกาใต้<ref name=":0">{{Cite journal|last=Ogura|first=Mitsuo|date=1996|title=Urbanization and Apartheid in South Africa: Influx Controls and Their Abolition|journal=The Developing Economies|language=en|volume=34|issue=4|pages=402–423|doi=10.1111/j.1746-1049.1996.tb01178.x|pmid=12292280|issn=1746-1049|doi-access=free}}</ref>

=== จุดเริ่มต้นของการแบ่งแยกสีผิว ===
{{บทความหลัก|การถือผิว}}
[[ไฟล์:ApartheidSignEnglishAfrikaans.jpg|thumb|"สำหรับใช้โดยคนผิวขาว"&nbsp;– ป้ายถือผิวซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษและภาษาอาฟรีกานส์]]

ใน ค.ศ. 1948 พรรคเนชั่นแนล (National Party) ชนะการเลือกตั้ง และได้เริ่มทำการส่งเสริมนโยบายแบ่งแยกเชื้อชาติ ซึ่งริเริมมาตั้งแต่สมัยเป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์และบริเตน โดยยึดเอา[[พระราชบัญญัติอินเดียน]] ของแคนาดาเป็นแบบอย่าง<ref>Gloria Galloway, [https://www.theglobeandmail.com/news/politics/chiefs-reflect-on-apartheid-and-first-nations-as-atleo-visits-mandela-memorial/article15902124/ "Chiefs Reflect on Apartheid"], ''The Globe and Mail'', 11 December 2013</ref> รัฐบาล[[ชาตินิยม]] ได้จำแนกประชาชนออกเป็นสามเชื้อชาติ โดยเชื้อชาติทั้งสามจะมีสิทธิและข้อจำกัดต่างกันออกไป ชนกลุ่มน้อยผิวขาว (น้อยกว่า 20% จากประชากรทั้งหมด)<ref>Beinart, William (2001). ''Twentieth-century South Africa.'' Oxford University Press. p. 202. {{ISBN|978-0-19-289318-5}}.</ref> ควบคุมประชากรผิวสีซึ่งมีจำนวนมากกว่า การแบ่งแยกสีผิวอย่างถูกต้องตามกฎหมายนี้กลายมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ''[[การถือผิว]]'' ในขณะชาวผิวขาวมี[[มาตราฐานการครองชีพ]] สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา สามารถเทียบได้กับชาติตะวันตก[[โลกที่หนึ่ง]] ประชากรผิวสีซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ของประเทศกลับด้อยกว่าในทุกทาง รวมไปถึงรายได้ การศึกษา การเคหะ และอายุคาดเฉลี่ย [[กฎบัตรเสรีภาพ]] ซึ่งได้ถูกรับเอามาใช้โดย[[พันธมิตรคองเกรส]] ค.ศ. 1955 เรียกร้องถึงสังคมที่ไร้การแบ่งแยกเชื้อชาติ และยุติการเลือกปฏิบัติ


== การเมืองการปกครอง ==

=== ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ===
==== ความสัมพันธ์กับประเทศไทย ====
{{กล่องข้อมูล ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ|แอฟริกาใต้ – ไทย|แอฟริกาใต้|ไทย|map=South Africa Thailand Locator.png}}
[[สาธารณรัฐแอฟริกาใต้]]กับ[[ราชอาณาจักรไทย]]สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2536 แอฟริกาใต้มีสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยที่[[กรุงเทพมหานคร]] นอกจากนี้ แอฟริกาใต้ยังได้แต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประจำ[[จังหวัดเชียงใหม่]] และมีเขตอาณาทางการกงสุลครอบคลุม[[จังหวัดเชียงราย]]อีกด้วย<ref>{{cite web|title= ข้อมูลความสัมพันธ์ทวิภาคี : ไทย - แอฟริกาใต้ |url= http://www.thaiembassy.org/pretoria/th/news/2307/86133-25-ปี-ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับแอฟริกาใต้.html |publisher=Thai Embassy Pretoria|date=13 มกราคม 2561}}</ref> และประเทศแอฟริกาใต้มีสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ [[พริทอเรีย|กรุงพริทอเรีย]]

แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีความสำคัญที่สุดประเทศหนึ่งสำหรับไทยใน[[ทวีปแอฟริกา]] โดยเป็นหุ้นส่วนหลักทางยุทธศาสตร์ของไทยทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม

จุดสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นเมื่ออดีตประธานาธิบดี[[เนลสัน แมนเดลา]] เดินทางเยือนประเทศไทยและได้เข้าเฝ้า[[พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร]] เมื่อปี 2539 ซึ่งนับว่าเป็นการแสดงถึงจุดสูงสุดของไมตรีจิตรและมิตรภาพที่มีอยู่ระหว่างประชาชนของสองประเทศ<ref>{{cite web|title= ความสัมพันธ์ไทย-แอฟริกาใต้ |url= http://www.thaiembassy.org/pretoria/th/thai-people/29602-ข้อมูลสำหรับคนไทย.html |publisher=Thai Embassy Pretoria|date=19 พฤศจิกายน 2555}}</ref>

แอฟริกาใต้เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของประเทศไทยใน[[ทวีปแอฟริกา]] และเป็นตลาดส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดใน[[แอฟริกาใต้ (ภูมิภาค)|ภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้]] และไทยเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของประเทศแอฟริกาใต้ในกลุ่มประเทศอาเซียน

จากการสำรวจของบริษัทนำเที่ยวในแอฟริกาใต้ ประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเป็นอันดับ 2 ของชาวแอฟริกาใต้ รองจาก[[ประเทศมอริเชียส]] โดยในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกาใต้เดินทางมาประเทศไทยจำนวน 102,713 คน ซึ่งแอฟริกาใต้ถือเป็นตลาดการท่องเที่ยวของไทยที่ใหญ่ที่สุดใน[[ทวีปแอฟริกา]]<ref>{{cite web|title= ททท.ลุยตลาดแอฟริกาใต้ อัพยอดนักท่องเที่ยวมาไทยปีหน้าพุ่ง |url= https://www.matichon.co.th/economy/news_1446880 |publisher=มติชน|date=11 เมษายน 2562}}</ref>

=== การแบ่งเขตการปกครอง ===
{{บทความหลัก|จังหวัดของประเทศแอฟริกาใต้}}
[[ไฟล์:Map of South Africa with English labels.svg|thumb|right|350px|9 จังหวัดในประเทศแอฟริกาใต้]]
ประเทศแอฟริกาใต้แบ่งเขตการปกครองออกเป็น '''9 จังหวัด (provines-''provinsie'')''' โดยแต่ละจังหวัดจะมีเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุด ได้แก่
{| class="wikitable sortable" style="text-align: right;"
|-
! จังหวัด
! เมืองหลวง
! เมืองใหญ่สุด
! พื้นที่<ref>{{cite book |title=Stats in Brief, 2010 |url=http://www.statssa.gov.za/publications/StatsInBrief/StatsInBrief2010.pdf |publisher=Statistics South Africa |location=Pretoria |year=2010 |isbn=978-0-621-39563-1 |page=3}}</ref>
! ประชากร <ref>{{Cite report |title=Mid-year population estimates, 2011 |url=http://www.statssa.gov.za/publications/P0302/P03022011.pdf |year=2011 |publisher=Statistics South Africa}}</ref>
|-
|align="left"| [[จังหวัดอีสเทิร์นเคป]] ||align="left"|[[บิโช]] ||align="left"|[[พอร์ตเอลิซาเบท]] || 168,966 || 6,829,958
|-
|align="left"|[[จังหวัดฟรีสเตต]] ||align="left"|[[บลูมฟอนเทน]] ||align="left"|[[บลูมฟอนเทน]] || 129,825 || 2,759,644
|-
|align="left"|[[จังหวัดเคาเต็ง]] ||align="left"|[[โจฮันเนสเบิร์ก]] ||align="left"|[[โจฮันเนสเบิร์ก]] || 18,178 || 11,328,203
|-
|align="left"|[[จังหวัดควาซูลู-นาตัล]] ||align="left"|[[ปีเตอร์มาริตซ์เบิร์ก]] ||align="left"|[[เดอร์บัน]] || 94,361 || 10,819,130
|-
|align="left"|[[จังหวัดลิมโปโป]] ||align="left"|[[โพโลเควน]] ||align="left"|[[โพโลเควน]] || 125,754 || 5,554,657
|-
|align="left"|[[จังหวัดพูมาลังกา]] ||align="left"|[[เนลสไปรต์]] ||align="left"|[[เนลสไปรต์]] || 76,495 || 3,657,181
|-
|align="left"|[[จังหวัดนอร์ทเวสต์]] ||align="left"|[[มาเฮเคง]] ||align="left"|[[รุสเทนเบิร์ก]] || 104,882 || 3,253,390
|-
|align="left"|[[จังหวัดนอร์เทิร์นเคป]] ||align="left"|[[คิมเบอร์เลย์]] ||align="left"|[[คิมเบอร์เลย์]] || 372,889 || 1,096,731
|-
|align="left"|[[จังหวัดเวสเทิร์นเคป]] ||align="left"|[[เคปทาวน์]] ||align="left"|[[เคปทาวน์]] || 129,462 || 5,287,863
|}

== โครงสร้างพื้นฐาน ==
=== การศึกษา ===
{{บทความหลัก|การศึกษาในประเทศแอฟริกาใต้}}ปัญหาด้านการศึกษาของชาวแอฟริกาใต้ ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่และสำคัญที่สุด เพราะหากชาวแอฟริกาใต้ได้รับการศึกษาที่ดีแน่นอนว่าย่อมจะได้รับการพัฒนาประชากร เมื่อคนได้รับความรู้ ก็สามารถที่จะนำความรู้ที่ได้นี้ไปปรับใช้เพื่อนำไปพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัย สภาพความเป็นอยู่ รวมทั้งการนำไปพัฒนาในด้านต่าง ๆ ของตนเองและครอบครัวให้มีชีวิตที่ดีขึ้น จึงอาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่ชาวแอฟริกาใต้ต้องการมากไม่แพ้ในสิ่งอื่นใดนั่นก็คือการศึกษา ในปัจจุบันการศึกษาจะถูกจำกัดไว้แค่คนที่มีฐานะเท่านั้น ส่วนคนจนแทบจะไม่ได้รับการศึกษาหรือได้รับการศึกษาที่น้อยมาก
== ประชากรศาสตร์ ==
=== เชื้อชาติ ===
{{โครง-ส่วน}}
'''ชาวผิวขาว''' เป็นชาวยุโรป ที่สืบเชื้อสายจาก[[ชาวดัตช์]], [[ชาวอังกฤษ]] และ[[ชาวฝรั่งเศส]] ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในแอฟริกาใต้ ปัจจุบันเรียกว่าชาวอาฟรีกาเนอร์
'''ชาวผิวสี''' เป็นชาวเลือดผสมระหว่างชาวอาฟรีกาเนอร์, ชาวพื้นเมือง, และชาวมลายูที่อพยพเข้ามา ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใน[[จังหวัดเวสเทิร์นเคป]]
และ'''ชาวพื้นเมือง'''เป็นชาวพื้นเมืองดั้งเดิมของทวีปแอฟริกา เช่น [[ซูลู|ชาวซูลู]] เป็นต้น นอกจากนั้นยังมี'''ชาวอินเดีย'''ที่ส่วนมากอาศัยอยู่ใน[[จังหวัดควาซูลู-นาตัล]] อีกด้วย

=== ศาสนา ===
{{โครง-ส่วน}}
คริสต์ร้อยละ 79.77% ไม่มีศาสนา 15.1% อิสลาม 1.46% พราหมณ์-ฮินดู 1.25% พุทธ 1.15%และอื่นๆอีก 1.42%

=== ภาษา ===
ประเทศแอฟริกาใต้มีภาษาราชการ 11 ภาษา ได้แก่ [[ภาษาอาฟรีกานส์]], [[ภาษาอังกฤษ]], [[ภาษาซูลู]], [[ภาษาโชซา]], [[ภาษาสวาตี]], [[ภาษาเอ็นเดเบลี]], [[ภาษาซูทูใต้]], [[ภาษาซูทูเหนือ]], [[ภาษาซองกา]], [[ภาษาสวันนา]] และ[[ภาษาเวนดา]] ชาวแอฟริกาใต้ส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอาฟรีกานส์และภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้

=== กีฬา ===
{{บทความหลัก|แอฟริกาใต้ในกีฬาเครือจักรภพ|แอฟริกาใต้ในโอลิมปิก|แอฟริกาใต้ในพาราลิมปิก}}

==== ฟุตบอล ====
{{บทความหลัก|สมาคมฟุตบอลแอฟริกาใต้|ฟุตบอลทีมชาติแอฟริกาใต้|ฟุตซอลทีมชาติแอฟริกาใต้}}
ฟุตบอลทีมชาติแอฟริกาใต้ (อังกฤษ: South Africa national football team) หรือ บาฟานา บาฟานา (Bafana Bafana มีความหมายว่าเด็กชาย) เป็นตัวแทนทีมฟุตบอลจากประเทศแอฟริกาใต้ อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลแอฟริกาใต้ (SAFA) ทีมกลับมาเล่นระดับโลกในปี 1992 หลังจากหลายปีที่ถูกฟีฟ่าแบนจาก[[นโยบายการแบ่งแยกสีผิว]] และในปี 2010 แอฟริกาใต้เป็นประเทศแรกของทวีปแอฟริกาที่เป็นเจ้าภาพ [[ฟุตบอลโลก 2010]] เดือนมิถุนายน ซิฟิเว่ ชาบาลาล่ายังเป็นคนแรกที่ทำประตูให้กับทีมชาติแอฟริกาใต้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ทีมชาติแอฟริกาใต้ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ชนะการแข่งขันแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ ในปี 1996 ที่ประเทศตนเองเป็นเจ้าภาพ

==== รักบี้ ====
{{บทความหลัก|สมาคมรักบี้แอฟริกาใต้|รักบี้ทีมชาติแอฟริกาใต้}}
กีฬารักบี้เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในแอฟริกาใต้อย่างมากพอๆกับฟุตบอล ทีมชาติแอฟริกาใต้เป็นทีมรักบี้ที่เก่งระดับโลกและมีผู้เล่นมากฝีมือมากมาย เช่น [[Percy Montgomery]] นักรักบี้ทีมชาติแอฟริกาใต้ที่เกิดใน[[ประเทศนามิเบีย]]

== วัฒนธรรม ==
=== เครื่องดนตรีพื้นเมือง ===
เครื่องดนตรีพื้นเมืองคือ'''วูวูเซลา''' (อังกฤษ: vuvuzela, เป็นภาษาซูลู แปลว่า ทำให้เกิดเสียงดัง) หรือในบางครั้งเรียก เลปาตาตา (Lepatata ในภาษาสวานา) เป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่าคล้ายทรัมเป็ต เป็นเครื่องดนตรีและวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองแอฟริกาใต้ มีความยาวประมาณ 1 เมตร เสียงของวูวูเซลา เป็นไปในลักษณะดังกึกก้อง คล้ายเสียงร้องของช้าง (บ้างก็บอกว่าคล้ายแมลงหวี่) และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการแข่งขัน[[ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2009]] และ[[ฟุตบอลโลก 2010]]

== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง|}}
* [http://www.mfa.go.th/web/2386.php?id=331 ข้อมูลประเทศแอฟริกาใต้] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20100520081013/http://www.mfa.go.th/web/2386.php?id=331 |date=2010-05-20 }} จากเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ

== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{sisterlinks|South Africa}}
; รัฐบาล
*[http://www.gov.za/ เว็บไซต์รัฐบาลแอฟริกาใต้]
*[https://www.cia.gov/library/publications/world-leaders-1/world-leaders-s/south-africa.html คณะรัฐมนตรี] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20081122014112/https://www.cia.gov/library/publications/world-leaders-1/world-leaders-s/south-africa.html |date=2008-11-22 }}
* {{CIA World Factbook link|sf|South Africa}}
; การศึกษา
* [http://www.ifs.du.edu/ifs/frm_CountryProfile.aspx?Country=ZA Key Development Forecasts for South Africa] from [[International Futures]]
*[http://ucblibraries.colorado.edu/govpubs/for/southafrica.htm South Africa] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20081026035604/http://ucblibraries.colorado.edu/govpubs/for/southafrica.htm |date=2008-10-26 }} from ''UCB Libraries GovPubs''
*{{dmoz|Regional/Africa/South_Africa}}
; ข้อมูลทั่วไป
*[http://www.oecd.org/southafrica/ South Africa] [[Organisation for Economic Co-operation and Development|OECD]]
*[http://www.bbc.co.uk/news/world-africa-14094760 South Africa] จาก [[BBC News]]
*[http://www.britannica.com/EBchecked/topic/555568/South-Africa South Africa] at ''[[Encyclopædia Britannica]]''
*[http://www.southafrica.info/ SouthAfrica.info] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20130103142958/http://www.southafrica.info/ |date=2013-01-03 }}
; ด้านการท่องเที่ยว
* {{wikiatlas|South Africa}}
* {{wikivoyage-inline|South Africa}}
*[http://www.southafrica.net/sat/content/en/za/home องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแอฟริกาใต้]
*[https://web.archive.org/web/20100918054237/http://www.life.com/image/first/in-gallery/43521/stunning-south-africa Stunning South Africa]&nbsp;– slideshow by ''[[Life magazine]]''
*{{Cite EB1911|W1EC=1|wstitle=South Africa}}

<br clear="all" />
{{เครือจักรภพ}}
{{แอฟริกา}}
{{UNSC}}
{{สหภาพแอฟริกา}}
{{G20}}

{{เรียงลำดับ|แอฟริกาใต้}}


[[หมวดหมู่:ประเทศแอฟริกาใต้| ]]
[[หมวดหมู่:ประเทศแอฟริกาใต้| ]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:22, 11 กรกฎาคม 2567

สาธารณรัฐแอฟริกาใต้

Republic of South Africa  (อังกฤษ)
ชื่อทางการของประเทศใน 10 ภาษาอื่น ๆ[1]
เมืองหลวง
เมืองใหญ่สุดโจฮันเนสเบิร์ก[4]
ภาษาราชการ11 ภาษา[1]
กลุ่มชาติพันธุ์
(2019[6])
ศาสนา
(2016)[7]
เดมะนิมชาวแอฟริกาใต้
การปกครองรัฐเดี่ยวสาธารณรัฐระบบรัฐสภาโดยมีประธานาธิบดีที่มีอำนาจบริหาร
ไซริล รามาโฟซา
ว่าง
Refilwe Mtsweni-Tsipane
Thoko Didiza
สภานิติบัญญัติรัฐสภา
สภาแห่งชาติ
สมัชชาแห่งชาติ
เอกราช 
31 พฤษภาคม ค.ศ. 1910
11 ธันวาคม ค.ศ. 1931
31 พฤษภาคม ค.ศ. 1961
17 มิถุนายน ค.ศ. 1991
27 เมษายน ค.ศ. 1994
4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1997
พื้นที่
• รวม
1,221,037 ตารางกิโลเมตร (471,445 ตารางไมล์) (อันดับที่ 24)
0.380
ประชากร
• 2021 ประมาณ
60,142,978[8] (อันดับที่ 23)
• สำมะโนประชากร 2011
51,770,560[9]: 18 
42.4 ต่อตารางกิโลเมตร (109.8 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 169)
จีดีพี (อำนาจซื้อ) 2021 (ประมาณ)
• รวม
เพิ่มขึ้น 862 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 32)
เพิ่มขึ้น 14,239 ดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 96)
จีดีพี (ราคาตลาด) 2021 (ประมาณ)
• รวม
เพิ่มขึ้น 415 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 33)
เพิ่มขึ้น 6,861 ดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 89)
จีนี (2014)positive decrease 63.0[11]
สูงมาก
เอชดีไอ (2019)เพิ่มขึ้น 0.709[12]
สูง · อันดับที่ 114
สกุลเงินแรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR)
เขตเวลาUTC+2 (SAST)
รูปแบบวันที่รูปแบบสั้น:
  • วว/ดด/ปปปป[13]
  • วว-ดด-ปปปป[14]
ขับรถด้านซ้าย
รหัสโทรศัพท์+27
รหัส ISO 3166ZA
โดเมนบนสุด.za
  1. 1.0 1.1 The Constitution of the Republic of South Africa (PDF) (2013 English version ed.). Constitutional Court of South Africa. 2013. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 August 2018. สืบค้นเมื่อ 17 April 2020.
  2. 2.0 2.1 2.2 "South Africa | History, Capital, Flag, Map, Population, & Facts". Encyclopedia Britannica (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 June 2019. สืบค้นเมื่อ 15 June 2020.
  3. "South Africa at a glance | South African Government". www.gov.za. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 May 2020. สืบค้นเมื่อ 18 June 2020.
  4. "Principal Agglomerations of the World". Citypopulation.de. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 December 2018. สืบค้นเมื่อ 30 October 2011.
  5. The Constitution of the Republic of South Africa (PDF) (2013 English version ed.). Constitutional Court of South Africa. 2013. ch. 1, s. 6. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 August 2018. สืบค้นเมื่อ 17 April 2020.
  6. "Mid-year population estimates" (PDF). Statistics South Africa. 29 July 2019. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 29 July 2019. สืบค้นเมื่อ 29 July 2019.
  7. "South Africa – Community Survey 2016". www.datafirst.uct.ac.za. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 November 2018. สืบค้นเมื่อ 25 November 2018.
  8. "Mid-year population estimates" (PDF). Statistics South Africa. 19 July 2021. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 29 July 2019. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
  9. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ cib11
  10. 10.0 10.1 10.2 10.3 "World Economic Outlook Database, October 2021". International Monetary Fund. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 December 2021. สืบค้นเมื่อ 15 October 2021.
  11. "Gini Index". World Bank. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 May 2020. สืบค้นเมื่อ 25 September 2018.
  12. "Human Development Report 2020" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). United Nations Development Programme. December 15, 2020. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2020. สืบค้นเมื่อ December 15, 2020.
  13. "Data Source Comparison for en-ZA". www.localeplanet.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 August 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-05-05.
  14. "Data Source Comparison for af-ZA". www.localeplanet.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 May 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-05-05.