ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศแอฟริกาใต้"
Rescuing 1 sources and tagging 0 as dead.) #IABot (v2.0.8.2 |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 48: | บรรทัด 48: | ||
| official_languages = [[ภาษาอังกฤษ]] |
| official_languages = [[ภาษาอังกฤษ]] |
||
| regional_languages = [[ภาษาอาฟรีกานส์]] [[ภาษาซูลู]] [[ภาษาโชซา]] [[ภาษาสวาตี]] [[ภาษาเอ็นเดเบลี]] [[ภาษาซูทูใต้]] [[ภาษาซูทูเหนือ]] [[ภาษาซองกา]] [[ภาษาสวันนา]] และ[[ภาษาเวนดา]] |
| regional_languages = [[ภาษาอาฟรีกานส์]] [[ภาษาซูลู]] [[ภาษาโชซา]] [[ภาษาสวาตี]] [[ภาษาเอ็นเดเบลี]] [[ภาษาซูทูใต้]] [[ภาษาซูทูเหนือ]] [[ภาษาซองกา]] [[ภาษาสวันนา]] และ[[ภาษาเวนดา]] |
||
| capital = [[เคปทาวน์]] ( |
| capital = [[เคปทาวน์]] (ฝ่ายนิติบัญญัติ) <br />[[พริทอเรีย]] (ฝ่ายบริหาร) <br />[[บลูมฟอนเทน]] (ฝ่ายตุลาการ) |
||
| latd = 33 |latm=55 |latNS=S |longd=18 |longm=25 |longEW=E | |
| latd = 33 |latm=55 |latNS=S |longd=18 |longm=25 |longEW=E | |
||
| largest_city = [[โจฮันเนสเบิร์ก]] |
| largest_city = [[โจฮันเนสเบิร์ก]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:26, 10 ธันวาคม 2564
สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ Republic of South Africa (อังกฤษ) ชื่ออย่างเป็นทางการของประเทศในอีก 10 ภาษา[1]
| |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เมืองหลวง | เคปทาวน์ (ฝ่ายนิติบัญญัติ) พริทอเรีย (ฝ่ายบริหาร) บลูมฟอนเทน (ฝ่ายตุลาการ) | ||||||||||||||||||||
เมืองใหญ่สุด | โจฮันเนสเบิร์ก | ||||||||||||||||||||
ภาษาราชการ | ภาษาอังกฤษ | ||||||||||||||||||||
ภาษาอาฟรีกานส์ ภาษาซูลู ภาษาโชซา ภาษาสวาตี ภาษาเอ็นเดเบลี ภาษาซูทูใต้ ภาษาซูทูเหนือ ภาษาซองกา ภาษาสวันนา และภาษาเวนดา | |||||||||||||||||||||
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบพรรคเด่น สาธารณรัฐระบบรัฐสภาโดยมีประธานาธิบดีที่มีอำนาจบริหาร | ||||||||||||||||||||
ไซริล รามาโฟซา | |||||||||||||||||||||
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภา | ||||||||||||||||||||
เอกราช | |||||||||||||||||||||
• จาก สหราชอาณาจักร | 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2453 | ||||||||||||||||||||
พื้นที่ | |||||||||||||||||||||
• รวม | 1,219,912 ตารางกิโลเมตร (471,011 ตารางไมล์) (24) | ||||||||||||||||||||
เล็กน้อย | |||||||||||||||||||||
ประชากร | |||||||||||||||||||||
• 2548 ประมาณ | 44,344,136 คน (อันดับที่ 26) | ||||||||||||||||||||
36 ต่อตารางกิโลเมตร (93.2 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 136) | |||||||||||||||||||||
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2560 (ประมาณ) | ||||||||||||||||||||
• รวม | $ 757.334 พันล้าน | ||||||||||||||||||||
• ต่อหัว | $ 13,403 | ||||||||||||||||||||
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2560 (ประมาณ) | ||||||||||||||||||||
• รวม | $ 344.064 พันล้าน | ||||||||||||||||||||
• ต่อหัว | $ 6,089 | ||||||||||||||||||||
จีนี (2557) | 63.0[2] สูงมาก | ||||||||||||||||||||
เอชดีไอ (2562) | 0.709[3] สูง · อันดับที่ 114 | ||||||||||||||||||||
สกุลเงิน | แรนด์ (ZAR) | ||||||||||||||||||||
เขตเวลา | UTC+2 | ||||||||||||||||||||
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+3 | ||||||||||||||||||||
ขับรถด้าน | ซ้ายมือ | ||||||||||||||||||||
รหัสโทรศัพท์ | 27 | ||||||||||||||||||||
โดเมนบนสุด | .za |
แอฟริกาใต้[a] หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้[b][c] เป็นประเทศที่อยู่ทางตอนใต้สุดของทวีปแอฟริกา โดยมีประชากรอยู่ 60 ล้านคน เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 23 ของโลก และครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,221,037 ตารางกิโลเมตร (471,445 ตารางไมล์) ประเทศแอฟริกามีเมืองหลวงอยู่ 3 แห่ง คือ พริทอเรีย (ฝ่ายบริหาร), บลูมฟอนเทน (ฝ่ายตุลาการ) และเคปทาวน์ (ฝ่ายนิติบัญญัติ) โดยมีโจฮันเนสเบิร์ก เป็นเมืองใหญ่ที่สุด ประชากรของแอฟริกาใต้ร้อยละ 80 มีเชื้อสายเป็นชาวแอฟริกาผิวดำ[4] ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่พูดภาษาของแอฟริกาที่แตกต่างกันออกไป[5] ส่วนประชากรที่เหลือประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ยุโรป (ชาวแอฟริกาใต้ผิวขาว ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา) เอเชีย (ชาวแอฟริกาเชื้อสายอินเดีย และจีน) และกลุ่มหลายชาติพันธุ์ (ชาวแอฟริกาใต้ผิวสี)
ภูมิศาสตร์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประวัติศาสตร์
อาณานิคมดัตช์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การรุกรานของบริเตน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สงครามบูร์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
จุดเริ่มต้นของการแบ่งแยกสีผิว
ใน ค.ศ. 1948 พรรคเนชั่นแนล (National Party) ชนะการเลือกตั้ง และได้เริ่มทำการส่งเสริมนโยบายแบ่งแยกเชื้อชาติ ซึ่งริเริมมาตั้งแต่สมัยเป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์และบริเตน โดยยึดเอาพระราชบัญญัติอินเดียน ของแคนาดาเป็นแบบอย่าง[6] รัฐบาลชาตินิยม ได้จำแนกประชาชนออกเป็นสามเชื้อชาติ โดยเชื้อชาติทั้งสามจะมีสิทธิและข้อจำกัดต่างกันออกไป ชนกลุ่มน้อยผิวขาว (น้อยกว่า 20% จากประชากรทั้งหมด)[7] ควบคุมประชากรผิวสีซึ่งมีจำนวนมากกว่า การแบ่งแยกสีผิวอย่างถูกต้องตามกฎหมายนี้กลายมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ การถือผิว ในขณะชาวผิวขาวมีมาตราฐานการครองชีพ สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา สามารถเทียบได้กับชาติตะวันตกโลกที่หนึ่ง ประชากรผิวสีซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ของประเทศกลับด้อยกว่าในทุกทาง รวมไปถึงรายได้ การศึกษา การเคหะ และอายุคาดเฉลี่ย กฎบัตรเสรีภาพ ซึ่งได้ถูกรับเอามาใช้โดยพันธมิตรคองเกรส ค.ศ. 1955 เรียกร้องถึงสังคมที่ไร้การแบ่งแยกเชื้อชาติ และยุติการเลือกปฏิบัติ
การเมืองการปกครอง
บริหาร
นิติบัญญัติ
ตุลาการ
กองทัพ
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ความสัมพันธ์กับประเทศไทย
แอฟริกาใต้ |
ไทย |
สาธารณรัฐแอฟริกาใต้กับราชอาณาจักรไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2536 แอฟริกาใต้มีสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยที่กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ แอฟริกาใต้ยังได้แต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ และมีเขตอาณาทางการกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงรายอีกด้วย[8] และประเทศแอฟริกาใต้มีสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพริทอเรีย
แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีความสำคัญที่สุดประเทศหนึ่งสำหรับไทยในทวีปแอฟริกา โดยเป็นหุ้นส่วนหลักทางยุทธศาสตร์ของไทยทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
จุดสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเกิดขึ้นเมื่ออดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา เดินทางเยือนประเทศไทยและได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อปี 2539 ซึ่งนับว่าเป็นการแสดงถึงจุดสูงสุดของไมตรีจิตรและมิตรภาพที่มีอยู่ระหว่างประชาชนของสองประเทศ[9]
แอฟริกาใต้เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของประเทศไทยในทวีปแอฟริกา และเป็นตลาดส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ และไทยเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของประเทศแอฟริกาใต้ในกลุ่มประเทศอาเซียน
จากการสำรวจของบริษัทนำเที่ยวในแอฟริกาใต้ ประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเป็นอันดับ 2 ของชาวแอฟริกาใต้ รองจากประเทศมอริเชียส โดยในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกาใต้เดินทางมาประเทศไทยจำนวน 102,713 คน ซึ่งแอฟริกาใต้ถือเป็นตลาดการท่องเที่ยวของไทยที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา[10]
การแบ่งเขตการปกครอง
ประเทศแอฟริกาใต้แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 9 จังหวัด (provines-provinsie) โดยแต่ละจังหวัดจะมีเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุด ได้แก่
จังหวัด | เมืองหลวง | เมืองใหญ่สุด | พื้นที่[11] | ประชากร [12] |
---|---|---|---|---|
จังหวัดอีสเทิร์นเคป | บิโช | พอร์ตเอลิซาเบท | 168,966 | 6,829,958 |
จังหวัดฟรีสเตต | บลูมฟอนเทน | บลูมฟอนเทน | 129,825 | 2,759,644 |
จังหวัดเคาเต็ง | โจฮันเนสเบิร์ก | โจฮันเนสเบิร์ก | 18,178 | 11,328,203 |
จังหวัดควาซูลู-นาตัล | ปีเตอร์มาริตซ์เบิร์ก | เดอร์บัน | 94,361 | 10,819,130 |
จังหวัดลิมโปโป | โพโลเควน | โพโลเควน | 125,754 | 5,554,657 |
จังหวัดพูมาลังกา | เนลสไปรต์ | เนลสไปรต์ | 76,495 | 3,657,181 |
จังหวัดนอร์ทเวสต์ | มาเฮเคง | รุสเทนเบิร์ก | 104,882 | 3,253,390 |
จังหวัดนอร์เทิร์นเคป | คิมเบอร์เลย์ | คิมเบอร์เลย์ | 372,889 | 1,096,731 |
จังหวัดเวสเทิร์นเคป | เคปทาวน์ | เคปทาวน์ | 129,462 | 5,287,863 |
เศรษฐกิจ
โครงสร้าง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การท่องเที่ยว
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
โครงสร้างพื้นฐาน
การคมนาคม และ โทรคมนาคม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การศึกษา
ปัญหาด้านการศึกษาของชาวแอฟริกาใต้ ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่และสำคัญที่สุด เพราะหากชาวแอฟริกาใต้ได้รับการศึกษาที่ดีแน่นอนว่าย่อมจะได้รับการพัฒนาประชากร เมื่อคนได้รับความรู้ ก็สามารถที่จะนำความรู้ที่ได้นี้ไปปรับใช้เพื่อนำไปพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัย สภาพความเป็นอยู่ รวมทั้งการนำไปพัฒนาในด้านต่าง ๆ ของตนเองและครอบครัวให้มีชีวิตที่ดีขึ้น จึงอาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่ชาวแอฟริกาใต้ต้องการมากไม่แพ้ในสิ่งอื่นใดนั่นก็คือการศึกษา ในปัจจุบันการศึกษาจะถูกจำกัดไว้แค่คนที่มีฐานะเท่านั้น ส่วนคนจนแทบจะไม่ได้รับการศึกษาหรือได้รับการศึกษาที่น้อยมาก
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สาธารณสุข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประชากรศาสตร์
เชื้อชาติ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ชาวผิวขาว เป็นชาวยุโรป ที่สืบเชื้อสายจากชาวดัตช์, ชาวอังกฤษ และชาวฝรั่งเศส ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในแอฟริกาใต้ ปัจจุบันเรียกว่าชาวอาฟรีกาเนอร์ ชาวผิวสี เป็นชาวเลือดผสมระหว่างชาวอาฟรีกาเนอร์, ชาวพื้นเมือง, และชาวมลายูที่อพยพเข้ามา ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในจังหวัดเวสเทิร์นเคป และชาวพื้นเมืองเป็นชาวพื้นเมืองดั้งเดิมของทวีปแอฟริกา เช่น ชาวซูลู เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีชาวอินเดียที่ส่วนมากอาศัยอยู่ในจังหวัดควาซูลู-นาตัล อีกด้วย
ศาสนา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
คริสต์ร้อยละ 79.77% ไม่มีศาสนา 15.1% อิสลาม 1.46% พราหมณ์-ฮินดู 1.25% พุทธ 1.15%และอื่นๆอีก 1.42%
ภาษา
ประเทศแอฟริกาใต้มีภาษาราชการ 11 ภาษา ได้แก่ ภาษาอาฟรีกานส์, ภาษาอังกฤษ, ภาษาซูลู, ภาษาโชซา, ภาษาสวาตี, ภาษาเอ็นเดเบลี, ภาษาซูทูใต้, ภาษาซูทูเหนือ, ภาษาซองกา, ภาษาสวันนา และภาษาเวนดา ชาวแอฟริกาใต้ส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอาฟรีกานส์และภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้
กีฬา
ฟุตบอล
ฟุตบอลทีมชาติแอฟริกาใต้ (อังกฤษ: South Africa national football team) หรือ บาฟานา บาฟานา (Bafana Bafana มีความหมายว่าเด็กชาย) เป็นตัวแทนทีมฟุตบอลจากประเทศแอฟริกาใต้ อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลแอฟริกาใต้ (SAFA) ทีมกลับมาเล่นระดับโลกในปี 1992 หลังจากหลายปีที่ถูกฟีฟ่าแบนจากนโยบายการแบ่งแยกสีผิว และในปี 2010 แอฟริกาใต้เป็นประเทศแรกของทวีปแอฟริกาที่เป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2010 เดือนมิถุนายน ซิฟิเว่ ชาบาลาล่ายังเป็นคนแรกที่ทำประตูให้กับทีมชาติแอฟริกาใต้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ทีมชาติแอฟริกาใต้ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ชนะการแข่งขันแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ ในปี 1996 ที่ประเทศตนเองเป็นเจ้าภาพ
รักบี้
กีฬารักบี้เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในแอฟริกาใต้อย่างมากพอๆกับฟุตบอล ทีมชาติแอฟริกาใต้เป็นทีมรักบี้ที่เก่งระดับโลกและมีผู้เล่นมากฝีมือมากมาย เช่น Percy Montgomery นักรักบี้ทีมชาติแอฟริกาใต้ที่เกิดในประเทศนามิเบีย
มวยสากล
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วัฒนธรรม
เครื่องดนตรีพื้นเมือง
เครื่องดนตรีพื้นเมืองคือวูวูเซลา (อังกฤษ: vuvuzela, เป็นภาษาซูลู แปลว่า ทำให้เกิดเสียงดัง) หรือในบางครั้งเรียก เลปาตาตา (Lepatata ในภาษาสวานา) เป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่าคล้ายทรัมเป็ต เป็นเครื่องดนตรีและวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองแอฟริกาใต้ มีความยาวประมาณ 1 เมตร เสียงของวูวูเซลา เป็นไปในลักษณะดังกึกก้อง คล้ายเสียงร้องของช้าง (บ้างก็บอกว่าคล้ายแมลงหวี่) และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการแข่งขันฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2009 และฟุตบอลโลก 2010
สื่อสารมวลชน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วันหยุด
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
หมายเหตุ
อ้างอิง
- ↑ The Constitution of the Republic of South Africa (PDF) (2013 English version ed.). Constitutional Court of South Africa. 2013.
- ↑ "Gini Index". World Bank. สืบค้นเมื่อ 25 September 2018.
- ↑ "Human Development Report 2020" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). United Nations Development Programme. December 15, 2020. สืบค้นเมื่อ December 15, 2020.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อcib11
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อsafacts
- ↑ Gloria Galloway, "Chiefs Reflect on Apartheid", The Globe and Mail, 11 December 2013
- ↑ Beinart, William (2001). Twentieth-century South Africa. Oxford University Press. p. 202. ISBN 978-0-19-289318-5.
- ↑ "ข้อมูลความสัมพันธ์ทวิภาคี : ไทย - แอฟริกาใต้". Thai Embassy Pretoria. 13 มกราคม 2561.
- ↑ "ความสัมพันธ์ไทย-แอฟริกาใต้". Thai Embassy Pretoria. 19 พฤศจิกายน 2555.
- ↑ "ททท.ลุยตลาดแอฟริกาใต้ อัพยอดนักท่องเที่ยวมาไทยปีหน้าพุ่ง". มติชน. 11 เมษายน 2562.
- ↑ Stats in Brief, 2010 (PDF). Pretoria: Statistics South Africa. 2010. p. 3. ISBN 978-0-621-39563-1.
- ↑ Mid-year population estimates, 2011 (PDF) (Report). Statistics South Africa. 2011.
- ข้อมูลประเทศแอฟริกาใต้ เก็บถาวร 2010-05-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ
แหล่งข้อมูลอื่น
- รัฐบาล
- เว็บไซต์รัฐบาลแอฟริกาใต้
- คณะรัฐมนตรี เก็บถาวร 2008-11-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- South Africa entry at The World Factbook
- การศึกษา
- Key Development Forecasts for South Africa from International Futures
- South Africa from UCB Libraries GovPubs
- ประเทศแอฟริกาใต้ ที่เว็บไซต์ Curlie
- ข้อมูลทั่วไป
- South Africa OECD
- South Africa จาก BBC News
- South Africa at Encyclopædia Britannica
- SouthAfrica.info เก็บถาวร 2013-01-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ด้านการท่องเที่ยว
- องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแอฟริกาใต้
- Stunning South Africa – slideshow by Life magazine
- Chisholm, Hugh, บ.ก. (1911). . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911 (11 ed.). สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์.