หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

คู่มือเริ่มใช้งานฉบับย่อของ Java

การเริ่มต้นอย่างรวดเร็วจะอธิบายวิธีการตั้งค่าและเรียกใช้แอปที่เรียกใช้ Google Workspace API

คู่มือเริ่มใช้งานฉบับย่อของ Google Workspace จะใช้ไลบรารีของไคลเอ็นต์ API ในการจัดการกับ รายละเอียดขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์และการให้สิทธิ์ เราขอแนะนำว่า คุณใช้ไลบรารีไคลเอ็นต์สำหรับแอปพลิเคชันของคุณเอง การเริ่มต้นอย่างรวดเร็วนี้ใช้ วิธีการตรวจสอบสิทธิ์ที่ง่ายขึ้นซึ่งเหมาะสำหรับการทดสอบ ของคุณ สำหรับสภาพแวดล้อมของการใช้งานจริง เราขอแนะนำให้เรียนรู้เกี่ยวกับ การตรวจสอบสิทธิ์และการให้สิทธิ์ ก่อน การเลือกข้อมูลเข้าสู่ระบบ ที่เหมาะกับแอปของคุณ

สร้างแอปพลิเคชันบรรทัดคำสั่ง Java ที่ส่งคำขอไปยัง Google Meet API

วัตถุประสงค์

ตั้งค่าสภาพแวดล้อมของคุณ
ตั้งค่าตัวอย่าง
เรียกใช้ตัวอย่าง

ข้อกำหนดเบื้องต้น

Java 1.8 หรือสูงกว่า
Gradle 7.0 ขึ้นไป
โปรเจ็กต์ Google Cloud

บัญชี Google Workspace ที่เปิดใช้ Google Meet

ตั้งค่าสภาพแวดล้อมของคุณ

ตั้งค่าสภาพแวดล้อมเพื่อให้การเริ่มต้นอย่างรวดเร็วนี้เสร็จสมบูรณ์

เปิดใช้ API

ก่อนใช้ Google APIs คุณต้องเปิดใช้ API เหล่านี้ในโปรเจ็กต์ Google Cloud คุณสามารถเปิด API ได้ตั้งแต่ 1 รายการขึ้นไปในโปรเจ็กต์ Google Cloud เดียว

เปิดใช้ Google Meet API ในคอนโซล Google Cloud

เปิดใช้ API

กำหนดค่าหน้าจอขอความยินยอม OAuth

หากใช้โปรเจ็กต์ Google Cloud ใหม่เพื่อเริ่มต้นใช้งานอย่างรวดเร็วนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ ให้กำหนดค่า หน้าจอขอความยินยอม OAuth แล้วเพิ่มตัวคุณเองเป็นผู้ใช้ทดสอบ หากคุณ ทําตามขั้นตอนนี้สําหรับโปรเจ็กต์ที่อยู่ในระบบคลาวด์เรียบร้อยแล้ว ให้ข้ามไปยังส่วนถัดไป

ในคอนโซล Google Cloud ให้ไปที่เมนู > API และ บริการ > หน้าจอขอความยินยอม OAuth
ไปที่หน้าจอขอความยินยอม OAuth
เลือกประเภทผู้ใช้เป็นภายใน แล้วคลิกสร้าง
กรอกแบบฟอร์มการลงทะเบียนแอป แล้วคลิกบันทึกและดำเนินการต่อ
ในตอนนี้ คุณสามารถข้ามการเพิ่มขอบเขต แล้วคลิกบันทึกและดำเนินการต่อได้ ในอนาคต เมื่อคุณสร้างแอปสำหรับใช้นอก ในองค์กร Google Workspace คุณต้องเปลี่ยนประเภทผู้ใช้เป็นภายนอก จากนั้น เพิ่มขอบเขตการให้สิทธิ์ที่แอปของคุณต้องการ
ตรวจสอบสรุปการลงทะเบียนแอป หากต้องการเปลี่ยนแปลง ให้คลิกแก้ไข หากแอป การลงทะเบียนถูกต้องแล้ว ให้คลิกกลับไปที่หน้าแดชบอร์ด

ให้สิทธิ์ข้อมูลเข้าสู่ระบบสำหรับแอปพลิเคชันเดสก์ท็อป

ในการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ปลายทางและเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ในแอป คุณต้องดำเนินการต่อไปนี้ สร้างรหัสไคลเอ็นต์ OAuth 2.0 อย่างน้อย 1 รหัส รหัสไคลเอ็นต์ใช้เพื่อระบุ แอปเดียวไปยังเซิร์ฟเวอร์ OAuth ของ Google หากแอปทำงานบนหลายแพลตฟอร์ม คุณต้องสร้างรหัสไคลเอ็นต์แยกกันสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม

ในคอนโซล Google Cloud ให้ไปที่เมนู > API และ บริการ > ข้อมูลเข้าสู่ระบบ
ไปที่ข้อมูลเข้าสู่ระบบ
คลิกสร้างข้อมูลเข้าสู่ระบบ > รหัสไคลเอ็นต์ OAuth
คลิกประเภทแอปพลิเคชัน > แอปบนเดสก์ท็อป
ในช่องชื่อ ให้พิมพ์ชื่อของข้อมูลเข้าสู่ระบบ ชื่อนี้จะแสดงเฉพาะในคอนโซล Google Cloud เท่านั้น
คลิกสร้าง หน้าจอที่สร้างไคลเอ็นต์ OAuth จะปรากฏขึ้น ซึ่งจะแสดงรหัสไคลเอ็นต์ใหม่และรหัสลับไคลเอ็นต์ของคุณ
คลิกตกลง ข้อมูลเข้าสู่ระบบที่สร้างขึ้นใหม่จะปรากฏในส่วนรหัสไคลเอ็นต์ OAuth 2.0
บันทึกไฟล์ JSON ที่ดาวน์โหลดเป็น credentials.json และย้าย ไฟล์ลงในไดเรกทอรีที่ใช้งานอยู่

เตรียมพื้นที่ทำงาน

ในไดเรกทอรีการทำงาน ให้สร้างโครงสร้างโปรเจ็กต์ใหม่:
```
gradle init --type basic
mkdir -p src/main/java src/main/resources 
```
คัดลอกไฟล์ credentials.json ในไดเรกทอรี src/main/resources/ ที่คุณดาวน์โหลดไว้ก่อนหน้านี้
เปิดไฟล์ build.gradle เริ่มต้นและแทนที่เนื้อหาด้วย รหัสต่อไปนี้:

meet/quickstart/build.gradle

ดูใน GitHub
```
apply plugin: 'java'
apply plugin: 'application'

mainClassName = 'MeetQuickstart'
sourceCompatibility = 11
targetCompatibility = 11
version = '1.0'

repositories {
    mavenCentral()
}

dependencies {
    implementation 'com.google.cloud:google-cloud-meet:0.3.0'
    implementation 'com.google.auth:google-auth-library-oauth2-http:1.19.0'
    implementation 'com.google.oauth-client:google-oauth-client-jetty:1.34.1'
}
```

ตั้งค่าตัวอย่าง

ในไดเรกทอรี src/main/java/ ให้สร้างไฟล์ Java ใหม่ด้วยชื่อที่ ตรงกับค่า mainClassName ในไฟล์ build.gradle ของคุณ

ใส่โค้ดต่อไปนี้ในไฟล์ Java ใหม่

meet/quickstart/src/main/java/MeetQuickstart.java

ดูใน GitHub

import java.awt.Desktop;
import java.io.FileNotFoundException;
import java.io.IOException;
import java.io.InputStream;
import java.net.URI;
import java.net.URL;
import java.nio.file.Files;
import java.nio.file.Path;
import java.nio.file.Paths;
import java.util.Collections;
import java.util.List;

import com.google.api.client.extensions.jetty.auth.oauth2.LocalServerReceiver;
import com.google.api.gax.core.FixedCredentialsProvider;
import com.google.apps.meet.v2.CreateSpaceRequest;
import com.google.apps.meet.v2.Space;
import com.google.apps.meet.v2.SpacesServiceClient;
import com.google.apps.meet.v2.SpacesServiceSettings;
import com.google.auth.Credentials;
import com.google.auth.oauth2.ClientId;
import com.google.auth.oauth2.DefaultPKCEProvider;
import com.google.auth.oauth2.TokenStore;
import com.google.auth.oauth2.UserAuthorizer;

/* class to demonstrate use of Drive files list API */
public class MeetQuickstart {
  /**
   * Directory to store authorization tokens for this application.
   */
  private static final String TOKENS_DIRECTORY_PATH = "tokens";

  /**
   * Global instance of the scopes required by this quickstart.
   * If modifying these scopes, delete your previously saved tokens/ folder.
   */
  private static final List<String> SCOPES = Collections
      .singletonList("https://www.googleapis.com/auth/meetings.space.created");

  private static final String CREDENTIALS_FILE_PATH = "/credentials.json";

  private static final String USER = "default";

  // Simple file-based token storage for storing oauth tokens
  private static final TokenStore TOKEN_STORE = new TokenStore() {
    private Path pathFor(String id) {
      return Paths.get(".", TOKENS_DIRECTORY_PATH, id + ".json");
    }

    @Override
    public String load(String id) throws IOException {
      if (!Files.exists(pathFor(id))) {
        return null;
      }
      return Files.readString(pathFor(id));
    }

    @Override
    public void store(String id, String token) throws IOException {
      Files.createDirectories(Paths.get(".", TOKENS_DIRECTORY_PATH));
      Files.writeString(pathFor(id), token);
    }

    @Override
    public void delete(String id) throws IOException {
      if (!Files.exists(pathFor(id))) {
        return;
      }
      Files.delete(pathFor(id));
    }
  };

  /**
   * Initialize a UserAuthorizer for local authorization.
   * 
   * @param callbackUri
   * @return
   */
  private static UserAuthorizer getAuthorizer(URI callbackUri) throws IOException {
    // Load client secrets.
    try (InputStream in = MeetQuickstart.class.getResourceAsStream(CREDENTIALS_FILE_PATH)) {
      if (in == null) {
        throw new FileNotFoundException("Resource not found: " + CREDENTIALS_FILE_PATH);
      }

      ClientId clientId = ClientId.fromStream(in);

      UserAuthorizer authorizer = UserAuthorizer.newBuilder()
          .setClientId(clientId)
          .setCallbackUri(callbackUri)
          .setScopes(SCOPES)
          .setPKCEProvider(new DefaultPKCEProvider() {
            // Temporary fix for https://github.com/googleapis/google-auth-library-java/issues/1373
            @Override
            public String getCodeChallenge() {
              return super.getCodeChallenge().split("=")[0];
            }
          })
          .setTokenStore(TOKEN_STORE).build();
      return authorizer;
    }
  }

  /**
   * Run the OAuth2 flow for local/installed app.
   * 
   * @return An authorized Credential object.
   * @throws IOException If the credentials.json file cannot be found.
   */
  private static Credentials getCredentials()
      throws Exception {

    LocalServerReceiver receiver = new LocalServerReceiver.Builder().build();
    try {
      URI callbackUri = URI.create(receiver.getRedirectUri());
      UserAuthorizer authorizer = getAuthorizer(callbackUri);

      Credentials credentials = authorizer.getCredentials(USER);
      if (credentials != null) {
        return credentials;
      }

      URL authorizationUrl = authorizer.getAuthorizationUrl(USER, "", null);
      if (Desktop.isDesktopSupported() && 
          Desktop.getDesktop().isSupported(Desktop.Action.BROWSE)) {
        Desktop.getDesktop().browse(authorizationUrl.toURI());
      } else {
        System.out.printf("Open the following URL to authorize access: %s\n",
            authorizationUrl.toExternalForm());
      }

      String code = receiver.waitForCode();
      credentials = authorizer.getAndStoreCredentialsFromCode(USER, code, callbackUri);
      return credentials;
    } finally {
      receiver.stop();
    }
  }

  public static void main(String... args) throws Exception {
    // Override default service settings to supply user credentials.
    Credentials credentials = getCredentials();
    SpacesServiceSettings settings = SpacesServiceSettings.newBuilder()
        .setCredentialsProvider(FixedCredentialsProvider.create(credentials))
        .build();

    try (SpacesServiceClient spacesServiceClient = SpacesServiceClient.create(settings)) {
      CreateSpaceRequest request = CreateSpaceRequest.newBuilder()
          .setSpace(Space.newBuilder().build())
          .build();
      Space response = spacesServiceClient.createSpace(request);
      System.out.printf("Space created: %s\n", response.getMeetingUri());
    } catch (IOException e) {
      // TODO(developer): Handle errors
      e.printStackTrace();
    }
  }
}

เรียกใช้ตัวอย่าง

เรียกใช้ตัวอย่าง
```
gradle run
```

ครั้งแรกที่คุณเรียกใช้ตัวอย่าง ระบบจะแสดงข้อความให้คุณให้สิทธิ์เข้าถึง
1. หากยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ให้ลงชื่อเข้าใช้เมื่อได้รับข้อความแจ้ง ถ้า คุณลงชื่อเข้าใช้หลายบัญชีอยู่ ให้เลือกบัญชีเดียวที่จะใช้สำหรับการให้สิทธิ์
2. คลิกยอมรับ
แอปพลิเคชัน Java จะเรียกใช้และเรียก Google Meet API

ข้อมูลการให้สิทธิ์จะจัดเก็บไว้ในระบบไฟล์ ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณเรียกใช้ตัวอย่าง คุณจะไม่ได้รับข้อความแจ้งให้ให้สิทธิ์

ขั้นตอนถัดไป

เอกสารประกอบเกี่ยวกับ Javadoc ของ Google Meet API